เมื่อฟุึตบอลยูโรเดินทางมาจัดที่ประเทศอังกฤษในปี 1996 ก็เหมือนกับการได้เดินทางกลับสู่บ้านที่รอนแรมไปเสียนาน ในฐานะเจ้าภาพ อังกฤษหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้ในบ้าน เหมือนที่เคยคว้าแชมป์โลกได้ในบ้านตัวเองเมื่อปี 1966
ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้
ทางยูฟ่าได้มีการปรับกฎเกณฑ์ในการแข่งขันเสียใหม่เพื่อรองรับชาติสมาชิกทีมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกจะเพิ่มเป็นเท่าตัวจาก 8 ทีมเป็น 16 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ทีมแชมป์และรองแชมป์จะได้ผ่านเข้าสู่รอบถัดไป นอกจากนี้ ทีมที่ได้คะแนนเท่ากัน จากที่เคยวัดกันด้วยผลต่างประตูได้เสีย ก็เปลี่ยนมาเป็นผลงานระหว่างสองทีมที่มีคะแนนเท่ากัน รวมถึงการนำเอา Golden goal เข้ามาใช้ในระดับชาติเป็นครั้งแรก
16 ทีม ที่ผ่านรอบคัดเลือก มีดังนี้
กลุ่ม Aมีทีมชาติ อังกฤษ, สก็อตแลนด์, เนเธอร์แลนด์ และ สวิสเซอร์แลนด์
กลุ่ม Bมีทีมชาติ บัลแกเรีย, ฝรั่งเศส, โรมาเนีย และ สเปน
กลุ่ม Cมีทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ค, เยอรมัน, อิตาลี และ รัสเซีย
กลุ่ม Dมีทีมชาติ โครเอเชีย, เดนมาร์ก, โปรตุเกส และ ตุรกี< p>
ในกลุ่ม A
อังกฤษเจ้าภาพ เริ่มเกมส์แรกกับสวิตเซอร์แลนด์ด้วยผลงานเสมอกันไป 1-1 ก่อนที่จะเอาชนะสก็อตแลนด์ไป 2-0 และ ชนะเนเธอร์แลนด์ส่งท้าย 4-1 จบผลงานด้วยแชมป์กลุ่ม ส่วนเนเธอร์แลนด์ตามเข้ารอบถัดไปด้วยผลงาน เสมอ สก็อตแลนด์ 0-0, ชนะสวิตเซอร์แลนด์ 2-0 และแพ้ให้อังกฤษ อันดับสามของกลุ่มตกเป็นของสก็อตแลนด์ด้วยผลงานชนะ เสมอ และแพ้ อย่างละ 1 เหมือนเนเธอร์แลนด์ ผลต่างประตูได้เสีย -1 ลูกเหมือนกันแต่ยิงประตูได้น้อยกว่า
ในกลุ่ม B
ฝรั่งเศส ทีมที่ผิดหวังจากยูโร 1992 อย่างไม่น่าเชื่อ กลับมาทำผลงานได้ดีด้วยนักเตะสายเลือดใหม่อย่าง ยูริ จอร์เกฟฟ์ และ ซีเนอดีน ซีดาน จบด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม ชนะโรมาเนีย เสมอสเปน และ ปิดท้ายด้วยการชนะบัลแกเรีย สเปนตามเข้ารอบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ชนะโรมาเนีย และเสมอกับบัลแกเรียและฝรั่งเศส โรมาเนียรั้งท้ายกลุ่มด้วยการไม่ชนะใครเลย
กลุ่ม C
เยอรมันแสดงศักยภาพการเป็นแชมป์ ด้วยการไม่เสียประตูเลยในการแข่งขันทั้งสามนัด ชนะเช็คด้วยสกอร์ 2-0 ชนะรัสเซียด้วยสกอร์ 3-0 ก่อนจะไปเสมอกับอิตาลี 0-0 ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม สาธารณรัฐเช็ค กับ อิตาลี ทำผลงานดีใกล้เคียงกัน คือ ชนะ เสมอ และ แพ้อย่างละหนึ่งนัด แต่ในนัดที่เช็คแข่งกับอิตาลี เช็คเป็นฝ่ายชนะ ทำให้เข้ารอบตามกฎใหม่ของยูฟ่า
กลู่ม D
เดนมาร์ก แชมป์ยูโรครั้งที่แล้ว ไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อีก จบยูโร 1996 ของตัวเองไว้ที่อันดับสามของกลุ่ม ด้วยการเสมอโปรตุเกส 1-1 ชนะตุรกี 3-0 และแพ้โครเอเชีย 0-3 ส่วนตุรกีก็กลับบ้านด้วยผลงานแพ้รวดทั้งสามนัด โดยยิงประตูใครไม่ได้เลย โปรตุเกสทำผลได้ดีด้วยการชนะตุรกี 3-0 ชนะโครเอเชีย 3-0 และเสมอกับเดนมาร์ก 1-1 ส่วนโครเอเชียเข้ารอบถัดไปด้วยการเป็นรองแชมป์ ชนะตุรกี 1-0 และชนะเดนมาร์ก
ในรอบควอเตอร์ไฟน่อล อังกฤษพบกับสเปน ด้วยการเล่นในระบบ 4-4-2 ต่างจากแมทช์ก่อนหน้านี้ทีเ่ล่นด้วย 5-3-2 ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ จนต้องมาตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ ซึ่งอังกฤษอาศัยความนิ่งชนะไปได้ 4-2
ในคู่ของฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ ก็เช่นเดียวกัน ไม่สามารถทำอะไรกันได้ จนต้องมาตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ และเป็นฝรั่งเศสที่แม่นกว่า ชนะไป 5-4 ในขณะที่เยอรมันที่มี เจอร์เก้น คลินสมันน์เป็นกัปตันทีม ก็เอาชนะไปด้วยประตู 2-1 ในเวลาปกติ ส่วนคู่สุดท้ายในรอบนี้ สาธารณรัฐเช็คเอาชนะโปรตุเกสที่มีทั้ง เจา ปินโต, รุย คอสต้า, เปาโล ซูซ่า และ หลุยส์ ฟิโก้ ไปได้ 1-0
สังเกตได้ว่า ฟุตบอลยูโรครั้งนี้ มีการเสมอในเวลาและเวลาพิเศษ จนต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษหลายนัดมาก โดยในรอบเซมิไฟน่อลนี้ก็เช่นกัน ฝรั่งเศสเสมอกับสาธารณรัฐเช็ค 0-0 และเป็นสาธารณรัฐเช็คที่ชนะไป 6-5 ส่วนอีกคู่หนึ่ง เยอรมันเสมอกับอังกฤษในเวลา 1-1 ก่อนที่เยอรมันจะเอาชนะจุดโทษไปได้ 6-5 ทำให้นัดชิงตกเป็นของ สาธารณรัฐเช็ค และ เยอรมัน
ในนัดชิง โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ กลายเป็นซูเปอร์ซัพ ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา หลังจากตามหลังอยู่ 0-1 แล้วเบียร์โฮฟก็เหมาคนเดียวทั้งสองลูกในเวลาปกติ 1 ลูก และช่วงต่อเวลา อีก 1 ลูก เป็นโกลเด้น โกล์ ทำให้เยอรมันคว้าแชมป์ยูโร 1996 ไปได้
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปีี | ชนะเสิศ | รองชนะเสิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |