บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมชาติสเปน ดีใจที่นำพาทัพ"กระทิงดุ"สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนัง พร้อมชื่นชมฟอร์มลูกทีมที่เล่นได้เหนือชั้น ส่วน เฟอร์นานโด ตอร์เรส สุดดีใจคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ(ดาวซัลโว) ประจำทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2012 ด้าน อีเกร์ กาซียาส ทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกที่คว้าชัยชนะครบ 100 เกม
ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2012 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเอ็นเอชเค โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา!ปรากฎว่าทัพ"กระทิงดุ"ทีมชาติสเปน แชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปี 2008 เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ หลังเอาชนะ"อัซซูรี่"ทีมชาติอิตาลี ไปขาดลอย 4-0 พร้อมกับเป็นสมัยที่ 3 เทียบเท่า เยอรมัน ที่ทำไว้ โดย 4 ลูกที่ได้มาจากการเรียงหน้ายิงไล่ตั้งแต่ ดาบิด ซิลบา, ฆอร์ดี้ อัลบา, และสองแข้งตัวสำรอง เฟอร์นานโด ตอร์เรส กับ ฆวน มาต้า ที่ลงมาช่วยกันซัดปิดฝาโลง
ภายหลังจบเกมการแข่งขัน บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เทรนเนอร์ทีมชาติสเปน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า!"หลังจากที่เราได้ประตูแรก อิตาลี ก็เริ่มอันตรายขึ้น แต่เราตอบโต้ได้ดีเลยทีเดียว เราครองบอลได้หมด เราจัดการไล่กดดันพวกเขา และเรามีการเล่นในเชิงลึก นี่เป็นแมตช์ที่สุดยอดสำหรับลูกทีมของผม ดังนั้นเรามีความสุขมากๆนี่เป็นความสำเร็จของวงการฟุตบอลสเปน ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมา และตอนนี้เราต้องมองไปที่อนาคต รวมทั้งผ่านรอบคัดเลือก เพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 ที่ บราซิล ให้ได้ นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการ ลูกหนังสเปน"
"เรากำลังพูดถึงยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล พวกเขามีพื้นฐานรู้วิธีการเล่นด้วยกันอย่างดีเพราะว่าเติบโตมาจากประเทศที่ ให้ความรู้เรื่องฟุตบอลอย่างถูกต้องเราทำงานของเราได้ดี ถึงตอนนี้เรามีนักเตะเก่งบางคนไปเล่นนอกประเทศ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน และตอนนี้เราเริ่มมองถึงศึกฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิล ซึ่งพวกเราจะต้องพยายามรักษามาตรฐานนี้เอาไว้ให้ได้ ผมอยากจะบอกว่าทุกคนก็แพ้กันได้ อิตาลี มีทัวร์นาเมนต์ที่ยอดเยี่ยมแต่ ติอาโก้ ม็อตต้า ดันบาดเจ็บ และเกมก็จบลงทันที เราเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม, ยิงประตูแรกได้ และถึงแม้ว่า อิตาลี จะตอบโต้ได้อย่างยอดเยี่ยม เราก็โต้คืนได้ด้วยการยิงประตูที่ 2"
"เรามีเกมที่ยอดเยี่ยม แต่อย่าคิดประมาท อิตาลี พวกเขาก็แค่โชคร้ายเท่านั้น ทุกอย่างมันเข้าทางเราหมดเลยในค่ำคืนที่ผ่านมา อิตาลี มีนักเตะน้อยกว่า 1 คนและพักน้อยกว่าเรา 1 วัน พวกเขาดูเหนื่อยล้า และไม่สามารถเล่นตามเกมของตัวเองได้เลย มันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงเอาชนะได้อย่างสบายๆเราเล่นไปตามเกมของเราและ ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่เราทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ มันไม่ได้มีฟุตบอลเพียงแค่แบบเดียว สิ่งที่สำคัญก็คือการยิงประตู นักเตะของเราเล่นกันอย่างชาญฉลาด และเรามีทีมที่สมดุลเป็นอย่างยิ่ง เรามีความไว้ใจในนักเตะของเรา เรามีกองหน้าแต่เราตัดสินใจที่จะส่งผู้เล่นที่จะเข้ากับสไตล์การเล่นของเรา ได้ดีกว่า"
"นี่เป็นเจเนอเรชั่นนักเตะที่สุดยอดจริงๆ พวกเขามีรากเหง้าอันยอดเยี่ยมและรู้วิธีในการเล่นเพราะพวกเขามาจากประเทศที่ รู้ดีว่าควรจะเล่นยังไง เรามีกลุ่มนักเตะชั้นยอด นี่เป็นยุคที่ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลสเปน หลังจากที่เวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และสถานที่จัดนัดชิงยูโร 2008 หลุยส์ อราโกเนส อดีตโค้ชทีมชาติสเปน แสดงให้เราเห็นถึงแนวทางและทิศทางในการที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป แต่ว่ามันยังมีความท้าทายอีกมากมายใน ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก รวมถึงคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ(2013) ที่เราต้องการจะทำผลงานให้ได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะตัวแทนของทวีปยุโรป"อดีต กุนซือรีล มาดริด ในวัย 61 ปี ร่ายยาว!
ส่วน เฟอร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน ก็เป็นผู้ที่ได้รับรางวัลดาวซัลโว(รองเท้าทองคำในศึกยูโร 2012) ด้วยการซัดไปถึง 3 ประตู จ่ายให้เพื่อนยิง 1 และเป็นผู้เล่นที่มีเวลาอยู่ในสนามน้อยสุด ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นๆ ที่ทำได้ 3 ตุงก็มี มาริโอ โกเมซ (เยอรมัน), อลัน ซาโกเยฟ (รัสเซีย), มาริโอ มานด์ซูคิช (โครเอเชีย), มาริโอ บาโลเตลลี่ (อิตาลี) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส) อย่างไรก็ตามแข้งสตาร์ รีล มาดริด ก็ได้คว้ารางวัลโกลเดนบู๊ทไปครองจากผลงานยิง 3 ประตู และ 1 แอสซิส
นอกจากนี้ศูนย์หน้าวัย 28 ปีของ"สิงห์บลูส์"เชลซี ยังเป็นแข้งคนแรกของศึกยูโรที่สามารถทำประตูในรอบชิงชนะเลิศ 2 สมัยติดกันหลังจาก 4 ปีก่อน ซึ่งเป็นคนจัดการยิงประตูชัยดับ"อินทรีเหล็ก"เยอรมัน ในเกมนัดชิงปี 2008 ทางด้าน อีเกร์ กาซียาส ก็ไม่เบาเมื่อได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่คว้าชัยชนะครบ 100 เกม พร้อมเป็นคนชูถ้วย 3 รายการใหญ่ระดับชาติติดตั้งแต่ ยูโร 2008 กับฟุตบอลโลก 2010 และยูโร 2012 อีกทั้งยังทำสถิติไม่เสียประตูหรือคลีนชีตได้ถึง 79 เกม จากการลงสนามทั้งหมด 137 นัดให้กับทัพ"กระทิงดุ"อีกด้วย
ซึ่งศึกยูโร 2012 หนนี้มือกาวในวัย 31 ปีกัปตันทีมชาติสเปน เสียประตูเพียงลูกเดียวให้กับ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ จากการลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก และหลังเกมอดีตนักเตะฝึกหัดของ"ราชันชุดขาว"ออกมากล่าวว่า!"ปีนี้เป็นที่ดี ที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของผม ตอนนี้เราต่างมีความสุขกับช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ ซึ่งอาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของผม มันจะมีคำวิจารณ์เกิดขึ้นเสมอ เพราะเราตั้งมาตรฐานไว้สูงมากๆ แต่เราก็สามารถเค้นเอาสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากผู้เล่นของเราได้ และใช้ประโยชน์จากลักษณะเด่นของเราได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ อิตาลี ดูอ่อนล้ามากๆตอนนี้เราก็จะฉลองและดื่มด่ำไปกับชัยชนะครั้งนี้ด้วยกัน"
และ ฆอร์ดี้ อัลบา ฟูลแบ็ก"เจ้าบุญทุ่ม"บาร์เซโลน่า ผู้ทำประตูที่ 2 ให้ทัพ"กระทิงดุ"ทีมชาติสเปน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า!"เพื่อนร่วมทีมของผมได้ร่วมกันสร้างประวัติ ศาสตร์มาก่อน และตอนนี้ผมได้ทำสิ่งเหล่านี้ร่วมกับพวกเขาในการทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2012 ครั้งแรกของผม ผมแทบไม่อยากเชื่อเรื่องนี้เลย แต่มันค่อยๆ ซึมซับทีละนิด ผมบอกกับเพื่อนๆ และครอบครัวของผมว่าผมยิงประตูได้ในคืนนี้ และนั่นเป็นแนวทางที่สุดยอด ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย แต่ผมก็ขอแสดงความเสียใจกับ อิตาลี ด้วยที่พวกเขาทำไม่ได้ ซึ่งพวกเขาได้ทำหน้าที่เต็มที่กันแล้ว"
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |