ยูโร 1972 เป็นอีกครั้งที่ทีมจากยุโรปตะวันออกหาญกล้ามาท้าทายทีมแห่งยุโรปตะวันตกนับเป็นอีกครั้งที่โซเวียตฝ่าสารัพดด่านจนกระทั่งเข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศ แต่ทว่า วันเวลาของสหภาพโซเวียตได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในรอบคัดเลือกศึกยูโร 1972 นี้ ยูฟ่าได้กระจายทีมในรอบคัดเลือกออกเป็น 8 กลุ่มๆ ละ 4 ทีม แชมป์เก่าจากแดนมะกะโรนีอยู่ในกลุ่ม 6 ร่วมกับออสเตรีย, สวีเดน, ไอร์แลนด์ ส่วนเยอรมันตะวันตกอยู่ในกลุ่ม 8 ซึ่งมีคู่ปะทะแข้งเป็นโปรแลนด์,ตุรกี, และแอลเบเนียและสำหรับทีมหลังม่านเหล็กอยู่ในกลุ่มเคียงข้างสเปนไอร์แลนด์เหนือและ ไซปรัส กระดูกชิ้นโตที่ขวางทางอินทรีเหล็กก็คือโปแลนด์ แต่ทีมกระจอกๆ อย่างแอลเบเนียนั้นเยอรมันตะวันตกเคยรู้ฤทธิ์มาแล้ว ว่าที่แชมป์ยุโรรายใหม่หือดแทบจับกว่าจะเอาชนะแอลเบเนีย หวุดหวิดในนัดแรกก่อนสบายตัวหน่อยในนัดที่สอง อินทรีเหล็กประสบปัญหาไม่น้อยเมื่อต้องเจอกับทีมรองบ่อนอีกรายอย่างตุรกี แต่ ณ วันที่ พญาอินทรีตัวนี้ทรงเครื่อง ความปราชัยย่อมไม่ได้มีไว้สำหรับพวกเขา และแล้วอินทรีเหล็กก็ไม่หนักใจ เมื่อพวกเขาลอยลำเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย ในรอบนี้ เยอรมันตะวันตกมีอังกฤษเป็นขวากหนาม 29 เมษายน 1972 แฟนลูกหนังชาวเบียร์ได้ส่งเสียงเชียร์ทีมชาติของตนอย่างไม่หยุดหย่อนกลายเป็นสุสานลูกหนังของทีมสิงโตคำรามผู้ถูกเยอรมันตะวันตกสอนบอลอย่างราบคาบ กองเชียร์อังกฤษมีโอกาสโห่ ร้องยินดีอยู่เพียงแวบเดียวหลังจากที่ฟรานซิส สียิงตีเสมอให้อังกฤษตามมาทันเยอรมันที่ 1-1 แต่ต่อมาความดีใจมลายไปสิ้นเพียงความตะลึงงัน เยอรมันตะวันตกชนะ 3-1 ยังชนะใจผู้ชมชาวผู้ดีด้วยเกมการเล่นที่เฉียบขาด แพรวพราวได้ดว้ยเทคนิคชั้นยอด ไม่มีใครเชื่อว่าอังกฤษ จะสามารถแก้ลำได้ในนัดที่สองที่เบอร์ลินโดยเฉพาะเมื่อเบื้องหน้าพวกเขามีนักเตะอย่าง กุนเธอร์ เน็ทเซอร์, ฟร้าซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ และจอมสังหารผู้ดุดัน..แกร์ด มุลเลอร์ นอกจากนักเตะที่เอ่ยนามมานี้แล้ว เยอรมันตะวันตกยังมีของดีเต็มทีม ทั้งเซปป์ ไมเออร์ นายทวาร, อูลี่ เฮอเนส, พอล ไบรท์เน่อร์, จอร์จ ชวาร์ เซ่นเบ็ค,ฮอร์ส ฮอทเจส, เฮอร์เบิร์ด วิมเมอร์,ซิกี้ เฮลด์, เจอร์เก้น กราบอฟสกี้
จึงไม่น่าแปลกใจที่วันรุ่งขึ้นจากชัยชนะที่เมกกะลูกหนังผู้ดี น.ส.พ.เลกิ๊ปของฝรั่งเศสจะพาดหัวว่า "มันคือเกมลูกหนังแห่งศตวรรษ 2000" ผลการเตะในนัดที่ 2 เป็นไปตามคาด อังกฤษ ทำดีที่สุดได้แค่ยันเสมอ 0-0 หนทางสู่รอบรองชนะเลิศของเยอรมันตะวันตกสดใสยิ่งกว่าแวเจียระไนด้านคู่ที่เหลือ เบลเยียมมามีชื่อขึ้นทำเนียบยูโรเมื่อสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเขี่ยแชมป์เก่าตกรอบ ส่วนทีมหลังม่านเหล็กดับซ่ายูโกฯลงได้ ในขณะที่ฮังการีต้องดวลกับโรมาเนียถึง3 หนกว่าจะรู้แพ้-ชนะ
เบลเยียม, เยอรมันตะวันตก, โซเวียตและฮังการี คือ 4 ทีมสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ในยูโร 1972 เบลเยียมถูกเลือกเป็นสังเวียนในรอบรองชนะเลิศและนัดชิงชนะเลิศ เหตุที่จู่ๆ ยูฟ่าก็หันมาหาเบลเยียมเพราะเยอรมันตะวันตกซึ่งรับปากจะเป็นเจ้าภาพแต่เดิมเกิดเตรียมงานไม่ทัน เพราะมีศึกใหญ่ให้ต้องรับมือถือสองรายการทั้งโอลิมปิก 1972 ที่ 2 มิวนิคและเวิลด์ คัพ 1974 หลังอินทรีเหล็กเอาชนะอังกฤษมาได้ดวงของพวกเขาก็กระฉูดชนิดหยุดไม่อยู่ โซเวียตเป็นอีกรายที่ต้องสังเวยชื่อเสียงในแมตช์กระชับมิตรกับเยอรมันตะวันตก
รอบตัดเชือกเบลเยียมได้พบกับเด็กกระฉูดทีมนี้ นักเตะเบลจ์มีเวลาเพียง90 นาทีที่จะโค่นเต็งแชมป์ แต่ความรุนแรงของนัดนี้ทำให้เกมน่ารำคาญมากกว่าน่าเพลินตา กว่าที่เยอรมันตะวันตกจะเอาชนะเจ้าบ้านมาได้ก็ทำเอาฟกช้ำดำเขียวไปตามๆ กัน ส่วนการประแข็งของอีกคู่ปรากฏว่าพลิกล็อก หมีขาวกลายเป็นผู้ชนะทั้งๆ ที่ทีมแม็กย่าร์ชุดนั้นมีประสิทธิภาพสูงพอที่สยบโซเวียตได้โซเวียตเดินทางเข้าสู่นัดชิงอีกครั้ง ทิ้งให้ฮังการีแย่งเกียรติยศเล็กๆ น้อยๆ กับปีศาจแดงแห่งยุโรปผู้เป็นเจ้าภาพในแมตช์ชิงที่ 3
ฮย์เซล สเตเดี้ยมถูกเปิดออกในวันที่ 18 มิถุนายน 1972 เพื่อเป็นสังเวียนนัดชิงชนะเลิศยูโร 1972 ระหว่างอินทรีเหล็กกับพญาหมีขาว สองทีมที่ดุร้ายสมชื่อ กล่าวกันว่า "หากเยอรมันตะวันตกพ่ายโซเวียตในนัดนี้ เกมลูกหนังจะล้าหลังไปถึง 5 ปีเลยทีเดียว" เลฟ ยาชิน ผู้ในขณะนั้นกลายเป็นอดีตนายทวารทีมชาติโซเวียต ผู้เกรียงไกรคือหนึ่งในผู้คนที่คิดว่า อินทรีเหล็กจะผงาดเหนือแผ่นดินเบลเยียม 10 นาทีล่วงไป อินทรีเหล็กดันโซเวียตสถานหนัก 17 นาทีต่อมา โซเวียตตาข่ายแตก เบ๊คเค่นบาเออร์, เน็ทเซอร์ และมุลเลอร์ ประสานพลังกันช่วยสร้างประตูแรกเน็ทเซอร์หวดบอลชนิดชนคานกระดอนออกมา ลูกตกใส่เข้าเท้าจุ๊ปป์ ไฮย์เกสผู้แทงบอลให้มุลเลอร์เป็นผู้สังหาร โซเวียตเริ่มเปลี่ยนสไตล์ มาใช้ความโหดหมดครึ่งแรกสหอร์คงเดิม เข้าสู่ครึ่งหลังโปโนมาเรฟ เปลี่ยนแผนมาใช้คอนคอฟออกและส่งโดลมาตอฟลงคุมแดนกลางแทนผลลัพธที่ออกมามีค่าเป็นศูนย์ ! และนอกจากจะแก้คืนไม่ได้ โซเวียตยังโดนอีกสองในช่วงเวลาเพียง 6 นาท นาที่ 52 วิมเมอร์ซิ่งลูกกับไฮย์เกสก่อนยิงเรียด เติมสกอร์ให้อินทรีเหล็กหนีออกไปเป็น 2-0 และเข้าสู่นาที่ 58 ไอ้ลูกระเบิดเพลิงสำแดงเดชอีกคำรบ มุลเลอร์ ตอกย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาดและเหนือชั้นของพลพรรคอินทรีเหล็ก พร้อมกันนั้นเยอรมันตะวันตกก็เตรียมรับศึกเวิลด์ คัพ 1974 อย่างใจจดใจจ่อ
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปีี | ชนะเสิศ | รองชนะเสิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |