หน้าแรก - ข่าว - ตัดสินแชมป์!กระทิงอัด3หน้า,เลี่ยนลุ้นบาโลโป้ง
ตัดสินแชมป์!กระทิงอัด3หน้า,เลี่ยนลุ้นบาโลโป้ง
Posted:01/07/2012

  

 

"กระทิงดุ" สเปน เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกโดย เชส ฟาเบรกาส น่าจะได้ลงตำแหน่งศูนย์หน้าตัวหลัก ขณะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส อาจเป็นเพียงแค่ตัวสำรองอีกเกม นัดชี้ชะตาแชมป์กับ "อัซซูรี่" อิตาลี ที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ยังคงเป็นตัวความหวังลุ้นให้ระเบิดฟอร์มเก่งล่าตาข่ายปิดสกอร์อีกเกม ในศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รอบชิงชนะเลิศ คืนวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. ศกนี 

 

ปรีวิว ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2555

สเปน      -      อิตาลี

เวลา : 01.45 น.     ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 , ช่อง 5



สนาม : โอลิมปิก สเตเดี้ยม, เคียฟ, ยูเครน


        คู่ชิงชนะเลิศ ยูโร 2012 ระหว่าง กระทิงดุ แชมป์เก่ายูโร 2008 และแชมป์โลก 2010 เจอกับ อิตาลี แชมป์โลก 2006 ซึ่งทั้งคู่พบกันหนที่สองในทัวร์นาเมนต์นี้ หลังจากรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี ทั้งสองทีมเสมอกันมา 1-1 ตั้งแต่นัดแรก


        บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เทรนเนอร์ทีมกระทิงดุ ตั้งเป้าพาทีมสร้างประวัติศาสตร์ คว้าชัยรายการใหญ่ติดต่อกัน 3 ทัวร์นาเมนต์ หลังหยิบแชมป์ยูโร 2008 โดย หลุยส์ อราโกเนส กุนซือคนก่อน และแชมป์เวิลด์คัพ 2010 โดย เดล บอสเก้


        เดล บอสเก้ พร้อมจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โดยมีตำแหน่งเดียวที่เป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะส่งใครลงเล่น นั่นคือกองหน้าตัวเป้า หลังจากนัดก่อนเลือก อัลบาโร่ เนเกรโด้ ลงตัวจริง


        ดูเหมือนว่าโอกาสที่ เชส ฟาเบรกาส จะได้ลงเล่นตำแหน่งดังกล่าวมีสูงที่สุด เพราะ เดล บอสเก้ ต้องการเน้นเกมต่อบอลแบบ "ติกิ ตะกะ" ทำให้โอกาสของพวกหน้าเป้าอย่าง เนเกรโด้ หรือ เฟร์นานโด ตอร์เรส เหลือน้อยลง


        ตำแหน่งอื่นๆ สมบูรณ์พร้อมในระบบการเล่น 4-3-3 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู อิเกร์ กาซิยาส กัปตันทีม ลงเฝ้าเสา แผงหลังจากขวาไปซ้ายไม่มีเปลี่ยน อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เกราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส, จอร์ดี้ อัลบา


        แดนกลาง 3 ประสาน เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่, ชาบี เอร์นานเดซ ขณะที่แนวรุกมี ดาบิด ซิลบา กับ อันเดรส อิเนียสต้า เป็นตัวยืนทางริมเส้น ส่วนตำแหน่งกองหน้าตัวกลาง เชส ฟาเบรกาส ขยับขึ้นสูง


        ทางฝั่ง เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เทรนเนอร์ทีมอัซซูรี่ ถือเป็นทีมใหญ่ที่มาเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ในฐานะม้านอกสายตา เพราะมีปัญหาเรื่องสภาพทีมที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก และยังมีปัญหานอกสนามเรื่องล้มบอลในเกมเซเรีย อาด้วย


        อัซซูรี่ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทั้งที่คว้าชัยชนะมาแค่ 2 นัดเท่านั้น คือเกมชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 รอบแบ่งกลุ่ม กับ เกมชนะ เยอรมัน 2-1 รอบรองชนะเลิศ ที่เหลือเสมอ 3 นัด กับ สเปน 1-1 และ โครเอเชีย 1-1 รอบแบ่งกลุ่ม และเสมอ อังกฤษ 0-0 รอบก่อนรองชนะเลิศ 120 นาที


        สภาพทีมมีข่าวดี คริสเตียน มาจโจ้ แบ็กขวาพ้นโทษแบน 1 นัด พร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ อินญาซิโอ อบาเต้ ที่น่าจะหายเจ็บกล้ามเนื้อฟิตทันเวลา หลังต้องใช้ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ ไปยืนแบ็กขวาจำเป็นในเกมกับ เยอรมัน


        ตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่ามีการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะแดนกลางกับแดนหน้าที่กำลังลงตัว 4 ขุนพลแดนกลางประกอบไปด้วย อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และอีกคน ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ น่าจะเบียด ติอาโก้ ม็อตต้า ลงตัวจริงต่อ


        ระบบการเล่นน่าจะยึด 4-3-1-2 ต่อไป หลังเคยใช้ 3-5-2 ในเกมเสมอ สเปน 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว ผู้รักษาประตู จานลุยจิ บุฟฟ่อน ลงเฝ้าเสา แนวรับ อินญาซิโอ อบาเต้, อันเดรีย บาร์ซาซี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่


        กองกลาง อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ โดยมี ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ขยับขึ้นสูง อยู่หลังคู่หน้า อันโตนิโอ คาสซาโน่ กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู นำเป็นดาวซัลโวร่วมอยู่ในเวลานี้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


        สเปน
(4-3-3)
: อิเกร์ กาซิยาส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เกราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส, จอร์ดี้ อัลบา - เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่, ชาบี เอร์นานเดซ - ดาบิด ซิลบา, อันเดรส อิเนียสต้า, เชส ฟาเบรกาส(เฟร์นานโด ตอร์เรส )


        อิตาลี
(4-3-1-2) :
จานลุยจิ บุฟฟ่อน - อินญาซิโอ อบาเต้, อันเดรีย บาร์ซาซี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ - อันเดรีย ปิร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ - ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ - อันโตนิโอ คาสซาโน่, มาริโอ บาโลเตลลี่


        ผู้ตัดสิน :
เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)


ผู้เล่นที่ติดโทษของทั้งสองทีม
- สเปน :
ติดโทษแบน :
ไม่มี
ใบเหลือง : เซร์คิโอ รามอส , อัลบาโร่ อาร์เบลัว , เซร์คิโอ บุสเกตต์ , ชาบี้ อลอนโซ่


- อิตาลี :
ติดโทษแบน :
ไม่มี
ใบเหลือง : เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ , ดานิเอเล่ เด รอสซี่ , ติอาโก้ มอตต้า , มาริโอ บาโลเตลลี่


อันดับ ฟีฟ่า
- สเปน : อันดับ 1
- อิตาลี : อันดับ 12


สภาพอากาศ : อาจมีฝน
- อุณหภูมิสูงสุด 26 เซลเซียส
- อุณหภูมิต่ำสุด 12 เซลเซียส

สถิติที่เคยพบกันของทั้งคู่
- 10/06/12 สเปน  1 - 1  อิตาลี  ยูโร 2012
- 11/08/11 อิตาลี 2 - 1  สเปน กระชับมิตร
- 23/06/08 สเปน 0 - 0 อิตาลี ยูโร 2008
- 27/03/08 สเปน  1 - 0  อิตาลีกระชับมิตร
- 28/04/04 อิตาลี  1 - 1  สเปน  กระชับมิตร
- 29/03/00 สเปน 2 - 0  อิตาลี  กระชับมิตร
- 18/11/98 อิตาลี  2 - 2  สเปน  กระชับมิตร


ผลงาน10นัดหลังสุด
สเปน :

- 16/11/11  เสมอ คอสตา ริก้า 2 - 2 (เยือน) กระชับมิตร
- 01/03/12  ชนะ เวเนซูเอล่า  5 - 0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 26/05/12  ชนะ เซอร์เบีย 2 - 0 (เหย้า)  กระชับมิตร
- 31/05/12  ชนะ เกาหลีใต้  4 - 1 (เหย้า)  กระชับมิตร
- 04/06/12 ชนะ จีน 1 - 0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 10/06/12 เสมอ อิตาลี 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 14/06/12 ชนะ ไอร์แลนด์ 4-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 18/06/12 ชนะ  โครเอเชีย 1-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 23/06/12 ชนะ ฝรั่งเศส 2-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 27/06/12 เสมอ โปรตุเกส 0-0 ต่อเวลา เสมอ 0-0 ยิงจุดโทษ สเปน ชนะ 4-2 (สนามกลาง) ยูโร 2012


อิตาลี :
- 12/10/11  ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 3 - 0 (เหย้า)  ยูโรรอบคัดเลือก
- 12/11/11  ชนะ โปแลนด์ 2-0 (เยือน)   กระชับมิตร
- 16/11/11  แพ้ อุรุกวัย 0 - 1 (เหย้า) กระชับมิตร
- 01/03/12  แพ้ อเมริกา  0 - 1 (เหย้า)   กระชับมิตร
- 02/06/12  แพ้ รัสเซีย 0 - 3 (เหย้า)  กระชับมิตร
- 10/06/12 เสมอ สเปน 1-1(สนามกลาง)ยูโร2012
- 14/06/12 เสมอ โครเอเชีย 1-1(สนามกลาง)ยูโร2012
- 18/06/12 ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0(สนามกลาง)ยูโร2012
- 24/06/12 เสมอ อังกฤษ 0-0 ต่อเวลา เสมอ 0-0 ยิงจุดโทษ อิตาลี ชนะ 4-2 (สนามกลาง)ยูโร2012
- 28/06/12 ชนะ เยอรมัน 2-1 (สนามกลาง) ยูโร 2012


สถิติในยูโร 2012
สเปน                                          อิตาลี
8                    ประตู                   6
78               โอกาสยิง               97
49            ยิงเข้ากรอบ              55
40                 เตะมุม                   27
18                ล้ำหน้า                   13
10              ใบเหลือง                 15
  0                ใบแดง                     0
64                ฟาล์ว                     79

 


ข้อมูลสนามแข่งขัน



โอลิมปิก สเตเดี้ยม

เมือง
: เคียฟ
ความจุ : 60,000
สโมสรที่ใช้ : ดินาโม เคียฟ
เปิดใช้ : ตุลาคม ปี 2011


ข้อมูลผู้ตัดสิน



เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)
เกิด : วันที่ 3 พฤศจิกายน 1970
อายุ : 42 ปี
อาชีพ : ที่ปรึกษาทางการเงิน

        โปรเอนก้า
เป็นผู้ตัดสินลีกโปรตุเกสตั้งแต่ปี 1998 และได้รับการโปรโมตจากฟีฟ่าให้ตัดสินเกมระดับนานาชาติในปี 2003 หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี เขาได้ไปตัดสินเกมยู-19 ชิงแชมป์ยุโรป 3 เกม รวมทั้ง นัดชิงระหว่างตุรกี กับ สเปน


        ในเดือนธันวาคม 2004 โปรเอนก้า ได้ตัดสินเกมอย่างเป็นทางการครั้งของยูฟ่า คือ ยูฟ่า คัพ ในเกมนัดที่สองของรอบแรก ระหว่าง เออีเค เอเธนส์ และ โกริก้า หลังจากตัดสินในรอบคัดเลือก ก่อนหน้านั้นสองฤดูกาล โปรเอนก้า ได้ตัดสินยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็ครั้งแรก ในรอบแบ่งกลุ่ม เดือน กันยายน 2007 ในเกม พีเอส ไอนด์โฮเฟ่น เอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก 2-1


        และ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2012 โปรเอนก้า ได้รับเลือกให้เป็นผู้ตัดสินนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง เชลซี และ บาเยิร์น มิวนิค


ผลการตัดสินในรอบที่ผ่านมา : 14 มิย สเปน ชนะ ไอร์แลนด์ 4-0 , 19 มิย สวีเดน ชนะ ฝรั่งเศส 2-0 , 24 มิย อังกฤษ เสมอ อิตาลี 0-0


เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
- นี่เป็นครั้งที่ 4 ในศึกยูโร ที่คู่ชิงชนะเลิศมาจากสองทีมที่เจอกันมาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม ต่อจากปี 1988 ฮอลแลนด์ กับ สหภาพโซเวียต, 1996 เยอรมัน กับ สาธารณรัฐเช็ก และ 2004 กรีซ กับ โปรตุเกส
- สเปน ไม่เสียประตูในรอบน็อกเอาต์รายการใหญ่ (ฟุตบอลโลกกับยูโร) มาเป็นเวลากว่า 900 นาทีแล้ว เริ่มนับตั้งแต่ยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ มาจนถึงยูโร 2012 รอบรองชนะเลิศ
- สเปน คือทีมที่สองของยุโรปที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรายการใหญ่ 3 ครั้งติดต่อกัน ก่อนหน้านี้มีเพียง เยอรมันตะวันตก ที่ทำได้ในยูโร 1972, ฟุตบอลโลก 1974 และ ยูโร 1976 แต่ได้แชมป์แค่สองครั้งแรก
- หาก สเปน คว้าแชมป์ จะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยูโรที่ป้องกันแชมป์ได้ และจะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์โลกที่คว้าแชมป์ 3 รายการใหญ่ติดต่อกัน
- สเปน มีแผงหลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศึกยูโร 2012 เพิ่งเสียเพียงแค่ประตูเดียว (ให้อิตาลี) โดย 2 เกมหลัง (รอบน็อกเอาต์กับ ฝรั่งเศส และ โปรตุเกส) พวกเขาบีบให้คู่แข่งยิงเข้ากรอบเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น และเมื่อรวมทุกนัด สเปน โดนคู่แข่งยิงเข้ากรอบแค่ 12 ครั้งเท่านั้น ซึ่ง 6 ครั้งเป็นของ อิตาลี ในรอบแบ่งกลุ่ม
- เชซาเร่ ปรันเดลลี่ มีผลงานในการเผชิญหน้าที่ดีกว่า บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เล็กน้อย เพราะ 2 นัดที่พบกัน อิตาลี ชนะ 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องเดือนสิงหาคม ปี 2011 อีกนัดคือรอบแบ่งกลุ่มยูโร 2012 ที่เสมอ 1-1
- อิตาลี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการใหญ่เป็นครั้งที่ 9 (3 ครั้งในยูโร และ 6 ครั้งในฟุตบอลโลก) โดย อัซซูรี่ คว้าชัยชนะไปได้สูงถึง 63 เปอร์เซนต์
- อิตาลี เป็นทีมเดียวในศึกยูโร 2012 ที่ไม่เคยตกเป็นฝ่ายตามหลังในเกมการแข่งขันตั้งแต่รอบแรกมาจนถึงรอบน็อกเอาต์ทั้งหมด 5 นัด
- อิตาลี กับ สเปน มีสถิติตัวเลขยิงประตูมากที่สุดในศึกยูโร 2012 จำนวน 99 และ 86 ครั้ง ตามลำดับ
- อิตาลี ภายใต้การคุมทีมของ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ 15 นัดในเกมสำคัญ ไม่มีแพ้ ชนะ 10 เสมอ 5
- มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นนักเตะที่มีสถิติยิงเข้ากรอบมากที่สุดในยูโร 2012 จำนวน 10 ครั้ง
- มาริโอ บาโลเตลลี่ กลายเป็นนักเตะคนแรกของ อิตาลี ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในศึกยูโร จำนวน 3 ประตู
- จานลุยจิ บุฟฟ่อน ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์สำคัญไปแล้ว 24 นัดทำสถิติเทียบเท่า ดิโน่ ซอฟฟ์ แต่ยังตามหลัง อิเกร์ กาซิยาส คู่แข่งรอบชิงอยู่ 4 นัด


สรุปการพบกันของ สเปน - อิตาลี
- 10 มิถุนายน 2012 สเปน - อิตาลี 1-1 ยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่ม
- 10 สิงหาคม 2011 อิตาลี - สเปน 2-1 อุ่นเครื่อง
- 22 มิถุนายน 2008 อิตาลี - สเปน 0-0 (2-4 จุดโทษ) ยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ
- 26 มีนาคม 2008 สเปน - อิตาลี 1-0 อุ่นเครื่อง
- 28 เมษายน 2004 อิตาลี - สเปน 1-1 อุ่นเครื่อง
- 29 มีนาคม 2000 สเปน - อิตาลี 2-0 อุ่นเครื่อง
- 18 พฤศจิกายน 1998 อิตาลี - สเปน 2-2 อุ่นเครื่อง
- 09 กรกฎาคม 1994 อิตาลี - สเปน 2-1 ฟุตบอลโลก 1994 รอบก่อนรองชนะเลิศ
- 14 มิถุนายน 1988 อิตาลี - สเปน 1-0 ยูโร 1988 รอบแบ่งกลุ่ม
- 12 มิถุนายน 1980 อิตาลี - สเปน 0-0 ยูโร 1980 รอบแบ่งกลุ่ม
- 21 ธันวาคม 1978 อิตาลี - สเปน 1-0 อุ่นเครื่อง
- 25 มกราคม 1978 สเปน - อิตาลี 2-1 อุ่นเครื่อง
- 20 กุมภาพันธ์ 1971 อิตาลี - สเปน 1-2 อุ่นเครื่อง
- 21 กุมภาพันธ์ 1970 สเปน - อิตาลี 2-2 อุ่นเครื่อง
- 13 มีนาคม 1960 สเปน - อิตาลี 3-1 อุ่นเครื่อง
- 28 กุมภาพันธ์ 1959 อิตาลี - สเปน 1-1 อุ่นเครื่อง
- 27 มีนาคม 1949 สเปน - อิตาลี 1-3 อุ่นเครื่อง
- 19 เมษายน 1942 อิตาลี - สเปน 4-0 อุ่นเครื่อง
- 01 มิถุนายน 1934 อิตาลี - สเปน 1-0 ฟุตบอลโลก 1934 รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแข่งใหม่
- 31 พฤษภาคม 1934 อิตาลี - สเปน 1-1 ฟุตบอลโลก 1934 รอบก่อนรองชนะเลิศ
- 19 เมษายน 1931 สเปน - อิตาลี 0-0 อุ่นเครื่อง
- 22 มิถุนายน 1930 อิตาลี - สเปน 2-3 อุ่นเครื่อง
- 22 เมษายน 1928 สเปน - อิตาลี 1-1 อุ่นเครื่อง
- 29 พฤษภาคม 1927 อิตาลี - สเปน 2-0 อุ่นเครื่อง
- 14 มิถุนายน 1925 สเปน - อิตาลี 1-0 อุ่นเครื่อง
- 09 มีนาคม 1924 อิตาลี - สเปน 0-0 อุ่นเครื่อง


สรุปดาวซัลโวยูโร 2012
(หลังจบรอบรองชนะเลิศ)
3 ประตู - มาริโอ บาโลเตลลี่ (อิตาลี), มาริโอ โกเมซ (เยอรมัน), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส), มาริโอ มานด์ซูคิช (โครเอเชีย), อลัน ซาโกเยฟ (รัสเซีย)
2 ประตู - เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน), ชาบี อลอนโซ่ (สเปน), เชส ฟาเบรกาส (สเปน), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (สวีเดน), อังเดร เชฟเชนโก้ (ยูเครน), ดิมิทริส ซัลปินจิดิส (กรีซ), ปีเตอร์ ยิราเช็ค (สาธารณรัฐเช็ก), วาชลาฟ พิลาร์ (สาธารณรัฐเช็ก), นิคลาส เบนท์เนอร์ (เดนมาร์ก), ไมเคิ่ล โครห์น-เดห์ลี่ (เดนมาร์ก)


ทำเนียบแชมป์ยูโร
ปี       แชมป์                            รองแชมป์
1960
 สหภาพโซเวียต               ยูโกสลาเวีย
1964 สเปน                             สหภาพโซเวียต
1968 อิตาลี                             ยูโกสลาเวีย
1972 เยอรมันตะวันตก              สหภาพโซเวียต
1976 เช็กโกสโลวาเกีย             เยอรมันตะวันตก
1980 เยอรมันตะวันตก              เบลเยียม
1984 ฝรั่งเศส                          สเปน
1988 ฮอลแลนด์                      สหภาพโซเวียต
1992 เดนมาร์ก                        เยอรมนี
1996 เยอรมนี                          สาธารณรัฐเช็ก
2000 ฝรั่งเศส                          อิตาลี
2004 กรีซ                               โปรตุเกส
2008 สเปน                             เยอรมนี

ข่าวฮอต

ตารางคะแนน
    อันดับ ทีม W/D/L แต้ม

    เมือง&สนามบอล

    ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา

    ปี ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับ 3
    2008สเปนเยอรมันรัสเซีย / ตุรกี
    2004กรีซโปรตุเกสเนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก
    2000ฝรั่งเศสอิตาลีเนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส
    1996เยอรมันสาธารณรัฐเช็กฝรั่งเศส / อังกฤษ
    1992เดนมาร์กเยอรมันเนเธอร์แลนด์ / สวีเดน
    1988เนเธอร์แลนด์สหภาพโซเวียตอิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก
    1984ฝรั่งเศสสเปนเดนมาร์ก / โปรตุเกส
    1980เเยอรมนีตะวันตกเบลเยียมเชโกสโลวะเกีย
    1976เชโกสโลวะเกียเเยอรมนีตะวันตกเนเธอร์แลนด์
    1972เเยอรมนีตะวันตกสหภาพโซเวียตเบลเยียม
    1968อิตาลียูโกสลาเวียอังกฤษ
    1964สเปนสหภาพโซเวียตฮังการี
    1960สหภาพโซเวียตยูโกสลาเวียเชโกสโลวะเกีย