เส้นทาง ยูโร 2012 ของ อังกฤษ จบเบ็ดเสร็จบริบูรณ์ พร้อมกับความเจ็บปวดซ้ำๆ เหมือนเดิม เมื่อต้องตกรอบด้วยการแพ้การดวลจุดโทษ อิตาลี แต่กระนั้นหากมองจากรูปเกมแล้ว "สิงโตคำราม" โดยมะกะโรนอุดปากจนส่งเสียงไม่ออก พูดง่ายๆ ก็สู้ไม่ได้เลย เอาแต่ตั้งรับอย่างเดียว สุดท้ายเทพีแห่งโชคก็ใส่เสื้อสีน้ำเงินนำ "เลี่ยน" เข้าสู่รอบตัดเชือกในที่สุด
ความพ่ายแพ้ในแมตช์นี้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอะไรเลย เพราะพวกเขาแพ้แบบสู้ไม่ได้จริงๆ แต่ในประวัติศาสตร์ลูกหนังเมืองผู้ดี มีหลายเกมที่พวกเขาแพ้อย่างน่าอับอาย หรือแพ้แบบไม่น่าแพ้หากเทียบชื่อชั้นแล้ว มาลองดูซิว่ามีเกมไหนบ้างที่พวกเขาหน้าด้านแพ้
10. อังกฤษ 2 สกอตแลนด์ 3 (1967)
อังกฤษ เพิ่งจะผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 และในแมตช์พบ สกอตแลนด์ ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าทัพ "สิงโตคำราม"ที่ยิ่งใหญ่ จะต้องมาอับอายขายขี้หน้ากับชาติพี่เมืองน้องที่เป็นลูกไล่ของตัวเองมาตลอด ทุกๆ เรื่อง แต่ในตอนนั้นทัพ "วิสกี้" มีขุนพลอย่าง จิม แบ็กซ์เตอร์ ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ แถมมีเพื่อนร่วมทีมที่รู้ใจ จัดการสอย อังกฤษ คาสนามเวมบลีย์ เล่นเอาคนทั้งชาติถึงกับอึ่งกิมกี่ ไปเลยทีเดียว
9. อังกฤษ 2 โครเอเชีย 3 (2007)
โครเอเชีย ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่แกร่งพอตัวเลยทีเดียว ดังนั้นการพ่ายแพ้พวกเขาไม่ใช่เรื่องน่าอัปยศแต่อย่างใด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของ สตีฟ แม็คคลาเรน ที่ยืนถือร่มขณะฝนตกตอนคุมทีมโม่เกือกกับ "ตาหมากรุก" ที่สนามเวมบลีย์ มันน่าขายขี้หน้าแฟนบอลสิ้นดี แม้ต้องการแค่เสมอ "สิงโตคำราม" ก็จะได้ไปเล่น ยูโร 2008 อังกฤษ กับโชว์ฟอร์มดีมีคุณภาพเหลือเกิน และสมควรที่จะได้ใช้ช่วงเวลาซัมเมอร์นั้นไปกับการเที่ยว และอยู่บ้านนั่งดูชาติอื่นๆ โม่เกือกอย่างเมามันทางทีวี
8. อังกฤษ 3 ฮังการี 6 (1953)
หลายๆ ปีหลังจากสิ้นสุดสงคราม อังกฤษ ได้รับการพิจารณว่าเป็นหนึ่งในชาติชั้นนำวงการลูกหนัง พวกเขาไม่เคยแพ้ใครในบ้านตัวเอง และมองแล้วไม่มีเหตุผลว่าทำไมเรื่องเหล่านี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการสู้ กับ ฮังการี แต่นอนความสุดยอดของชายชื่อเฟเรนซ์ ปุสกัส ที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมทีมในการสร้างสิ่งที่ไม่อาจลืม เลือนได้เลยกับชัยชนะของทีมรองบ่อนที่มีต่อเจ้าบ้าน
7. สหรัฐอเมริกา 2 อังกฤษ 0 (1993)
อังกฤษ ไม่ผ่านรอบคัดเลือกศึกฟุตบอลโลก 1994 แต่ที่ห่วยยิ่งกว่านั้นก็คือ ทีมของ เกรแฮม เทย์เลอร์ ที่เล่นได้ห่วยบรมห่วยในเกมอุ่นเครื่องโดน สหรัฐฯ สอนเชิงที่แมสซาชูเซตส์ แม้ อเล็กซิส ลาลาส กองหลังเคราดก ยังขึ้นมาโหม่งทำประตูได้เลย ต้องยอมรับว่าในยุคของ "หัวผักกาด" อังกฤษ เป็นเหมือนทีมตัวตลกอย่างไงอย่างนั้น
6. เวลส์ 4 อังกฤษ 1 (1980)
ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" เดินทางมาดวลกับเวลส์ ในสภาพฮอตสุดขีดเมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด โดยเกมสุดท้ายก็คือดวลกับ อาร์เจนตินา แชมป์เวิลด์ คัพ 1978 แต่ เวลส์ ซึ่งมียอดนักเตะอย่าง มิคกี้ โทมัส ทำให้ อังกฤษ รู้ว่าการเล่นขั้นเทพเป็นยังไง และบรรดาผู้มาเยือนก็ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ที่สุดแสนเจ็บปวดในรอบ 16 ปี
5. อังกฤษ 1 ออสเตรเลีย 3 (2003)
อัพตัน พาร์ค เป็นหนึ่งในสนามที่สุดแสนอัปยศ ออสเตรเลีย เป็นทีมระดับรากหญ้า แต่ อังกฤษ มีความสามารถที่จะเอาชนะได้หรือเปล่า ? แน่นอนว่าไม่ แมตช์นี้ เวย์น รูนี่ย์ ได้เปิดตัวในฐานะนักเตะทีมชาติเป็นครั้งแรก และก็ต้องเจอกับประสบการณ์ที่แสนน่าผิดหวัง เมื่อแพ้ทัพ "จิงโจ้" แบบสบายอุรา
4. อังกฤษ 1 สกอร์แลนด์ 5 (1928)
นี่เป็นแมตช์แรกในระดับชาติที่เตะในสนามเวมบลีย์ โดย สกอตแลนด์ มาเยือนพร้อมกับถือครองผลเสมอ 1-1 ในเกมแรก โดยการเตะที่ถิ่นเมืองผู้ดี ถือเป็นหายนะของเจ้าบ้านโดยแท้ เมื่อ อเล็กซ์ เจมส์ สุดยอดดาวเตะเลือดวิสกี้ ตะบันแฮตทริกให้กับทีมน้ำเมาก่อนที่พวกเขาจะให้อัดชาติลูกพี่ไปแบบสบายเกือก จนหลายคนตั้งฉายาแมตช์ดังกล่าวว่า "เวมบลีย์ วิซาร์ดส"
3. นอร์เวย์ 2 อังกฤษ 1 (1981)
ในยุคนั้น นอร์เวย์ ถือเป็นสมันน้อยในวงการลูกหนังโลก แต่พวกสามารถสร้างเรื่องที่สุดช็อกเมื่อจัดการปราบ อังกฤษ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมลูกหนังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม "สิงโตคำราม" ดวงยังเฮงได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 1982 แต่ก็เท่านั้นเพราะสุดท้ายพวกเขาก็ไปไม่ถึงดวงดาวอยู่ดี
2. ไอร์แลนด์เหนือ 1 อังกฤษ 0 (2005)
หากพิจารณานักเตะของ "แอร์เหนือ" ที่มีแค่ผู้เล่นจาก พลีมัธ, ปีเตอร์โบโร่ และ มาเธอร์เวลล์ กับนักเตะที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกไม่กี่คน ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะสอย อังกฤษ แบบสบายเกือก แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะลูกๆ กลม ไม่สามารถคาดเดาได้ สุดท้ายนี่คือความพ่ายแพ้ที่ทำให้ทุกๆ คนรู้ว่า ไม่มีชาติไหนจะยิ่งใหญ่ไปตลอดกาล
1. สหรัฐอเมริกา 1 อังกฤษ 0 (1950)
อังกฤษ เปิดตัวหรูในศึกฟุตบอลโลก 1950 ด้วยการเอาชนะ ชิลี อย่างไรก็ตาม ในเกมที่เหลืออยู่ของพวกเขาก็เจอคู่แข่งไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย โดยเฉพาะ สหรัฐฯ แต่ให้ตายเหอะ ทัพแยงกี้ ที่ได้ชื่อว่าหมู แต่กลับการเป็นหมูป่าเขี้ยวตัน และได้แสดงให้เห็นว่าดินแดงลุงแซมก็มีลีลาเชิงลูกหนังสะเด็ดสะเด่า ด้วยการสอย "สิงโตคำราม" คำรามไม่ออก และแพ้ไปอย่างน่าอับอาย เอาง่ายๆ เสียลายชาติต้นกำหนิดลูกหนังไปเลย
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |