มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกตัวป่วนทีมชาติอิตาลี เก็บอาการไม่อยู่ ยอมรับ นี่คือค่ำคืนที่แสนวิเศษของตนเอง หลังซัดเบิ้ล นำ "อัซซูรี่" สอย เยอรมนี 2-1 รอบตัดเชือก ศึกยูโร 2012 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แถมมีมุก บอกท่าฉลองประตูด้วยการถอดเสื้อก็แค่อยากโชว์กล้ามให้หนุ่มๆ สาวๆ ได้อิจฉาตาร้อนเล่นๆ
มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้ามาดกวนทีมชาติอิตาลี เปิดใจว่า นี่คือค่ำคืนที่ดีที่สุดในชีวิตของตน หลังจากที่นำ "อัซซูรี่" ปราบ เยอรมนี 2-1 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม เนชั่นแนล สเตเดี้ยม กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา
"ซูเปอร์มาริโอ" ซัด 2 ประตู ส่งให้ อิตาลี เข้าไปดวลกับ สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม ณ กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดย บาโลเตลลี่ กล่าวว่า "หลังจบเกม ตอนที่ผมวิ่งเข้าไปหาแม่ของผม นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ผมบอกกับท่านว่า ประตูที่ยิงได้ทั้งหมดของมอบให้กับท่าน"
"ผมรอช่วงเวลาแบบนี้มานานแล้ว โดยเฉพาะเมื่อแม่ของผมไม่ใช่สาวๆ อีกแล้ว และไม่สามารถเดินทางไกลได้ ดังนั้นผมทำให้ท่านมีความสุขตอนที่ท่านเดินทางมาที่นี่ พ่อของผมจะอยู่ที่เคียฟ ในนัดชิงชนะเลิศด้วย ก่อนเกมนี้แม่ของผม รวมทั้งพี่ชาย และพี่สาวบุญธรรม และเพื่อนสนิทของผมอยู่ที่นี่ ดนตรีแบบไหนที่ผมฟังก่อนลงสนามนะเหรอ ? เดร็ค ไง เขาเป็นเพื่อนผม"
ตอนนี้ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซัดไปแล้ว 3 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วมศึกยูโร ครั้งนี้ และมีโอกาสที่จะแซงขึ้นนำเดี่ยว เพราะยังต้องลงเล่นอีก 1 เกม โดย "บาโล" เผยว่า "ผมพยายามที่จะคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด บางครั้งในการเล่นฟุตบอล คุณพยายามหลายต่อหลายครั้งแต่ยิงไม่เข้า หรือพยายามแค่นิดหน่อย แต่กลับยิงเข้าตลอด มันเป็นการผ่านบอลที่สุดยอด ซึ่งต้องเป็น อันโตนิโอ คาสซาโน่ เท่านั้นที่จะถวายพานแบบนี้ได้ ขณะที่ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ก็ผ่านบอลสุดยอดเช่นกัน ท่าดีใจของผมนะเหรอ? ผมบอกไปแล้วว่า ตั้งใจจะทำแบบนี้"
บาโลเตลลี่ ฉลองประตูที่สองด้วยการถอดเสื้อโชว์กล้าม แล้วโดนใบเหลือง โดยเจ้าตัวกล่าวติดตลกในเรื่องนี้ว่า "พวกเขาไม่ได้โกรธ เพราะผมแค่โดนจดชื่อจากการถอดเสื้อ แต่พวกเขาได้เห็นเรือนร่าง และอิจฉาไหมล่ะ! การยิงได้สองประตูเป็นสิ่งสำคัญมาก และช่วยทีมชนะในเกมนี้ ดังนั้นผมจะจดจำทั้งสองประตูตลอดไป"
ส่วนกรณีที่โดนเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังโดย อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ลงมาแทน เนื่องจากมีปัญหาเป็นตะคริว โดย บาโลเตลลี่ เผยว่า "ผมเป็นตะคริว แถมมีอาการล้านิดหน่อย แต่ผมบอกกับโค้ชว่ารออีกสัก 5 นาที และเมื่อตัวสำรองลงมาก็ช่วยทำให้ทีมเล่นดีขึ้น มันเป็นเรื่องสุดยอดจริงๆ ผมจะกลับไปเล่นที่อิตาลี ไหม? ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะผมอยู่ที่อังกฤษ และจะอยู่ที่นั่นต่อไป แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงรักผม แม้ว่าเราจะเขี่ยอังกฤษ ตกรอบก็ตาม"
สำหรับการดวลกับ สเปน นั้น อดีตดาวรุ่ง อินเตอร์ มิลาน กล่าวว่า "นี่เป็นค่ำคืนที่แสนวิเศษในชีวิตของผม แต่ผมหวังว่า วันอาทิตย์นี้จะดียิ่งกว่านี้ ผมหวังที่จะชนะ ผมไม่สนว่า ผมจะเล่นแย่หรือไม่ ตราบใดที่เราทุ่มเทอย่างเต็มที่ เราต้องผ่อนคลาย ไม่ต้องไปท้อกับการครองบอลของพวกสเปน และพยายามเล่นในสไตล์ของเรา อย่าลืมว่าเราเป็นทีมเดียวที่ยิงประตูในเกมกับ สเปน ได้ เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราสูสีกับพวกเขา และเราต้องการคว้าแชมป์"
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |