สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมชาติอังกฤษ ประกาศชัด ยังไม่บอกลาการรับใช้ชาติบ้านเกิดแน่ ถึงแม้เจ้าตัวจะมีอายุมากแล้วก็ตาม เผย อยากรับบทกัปตันทีมต่อไป และพา "สิงโตคำราม" ลงเล่นศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายด้วย พร้อมชี้ แผงกลางของ อังกฤษ ยังต้องปรับปรุงกันให้มากกว่านี้ แต่ยัน ฟอร์มในทัวร์นาเมนต์นี้ดีกว่าเมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2010 บานเบอะ
สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติอังกฤษ ยืนยัน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า ตนจะยังไม่เลิกเล่นให้ทีมชาติแน่นอน พร้อมเผยว่า ตนมีความหวังที่จะได้สวมปลอกแขนนำทัพ "สิงโตคำราม" ลงเล่นศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล จะเป็นเจ้าภาพต่อไป
เจอร์ราร์ด โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับบ้านเกิด ในการลงเล่นศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบสุดท้าย ที่ โปแลนด์ กับ ยูเครน รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาอันสุดยอดอย่างต่อเนื่องของมิดฟิลด์วัย 32 ปี กับทัพ "สิงโตคำราม" ก็ต้องสิ้นสุดลงเพียงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อ อังกฤษ แพ้ให้กับ อิตาลี ในช่วงการดวลจุดโทษด้วยสกอร์ 2-4 หลังจบ 120 นาที เสมอกัน 0-0 ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เรื่องในครั้งทำให้มิดฟิลด์จากค่าย ลิเวอร์พูล ยังคงไม่อาจได้ชูถ้วยแชมป์กับบ้านเกิด และหากศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายมาถึงแล้วนั้น เขาก็จะมีอายุแตะหลัก 34 ปี ซึ่งบางฝ่ายมองว่า เขาอาจแก่เกินไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ด ยืนกรานว่า ตนหวังที่จะยืดเวลาการได้ลงช่วยชาติ ภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษต่อไป หลังจากที่ตนรู้สึกสนุกสนานอย่างมาก ในการรับหน้าที่กัปตันทีมของทัพ "สิงโตคำราม"
เจอร์ราร์ด กล่าวว่า "ผมได้คุยสั้นๆ กับผู้จัดการทีมแล้ว และผมก็บอกเขาว่า ผมพร้อมที่จะถูกเรียกติดทีมอยู่เสมอ ตราบใดที่ผมยังเป็นที่ต้องการในระดับนี้ ผมชอบมัน (หน้าที่กัปตันทีม) มาก ผมรักความรับผิดชอบนี้ ผมรู้สึกสนุกไปกับมันทุกนาทีเลย ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมานั้น ผมได้พยายามอย่างดีที่สุด และทุ่มเททุกอย่างที่ผมมีแล้ว"
ทั้งนี้ เจอร์ราร์ด นับเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของ อังกฤษ ประจำทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2012 จากการที่เขาผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้แผงมิดฟิลด์ตรงกลางของ "สิงโตคำราม" จะมีผลงานที่น่าพอใจ แต่แข้งวัย 32 ปี ระบุว่า ตำแหน่งดังกล่าวยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ หลังจากที่พวกเขาสู้แผงกลางของ อิตาลี ไม่ได้เลย
"เราเล่นกันได้ดี เราไมได้ทำให้ผู้คนต้องตกใจก็จริง แต่เราก็เกาะกลุ่มเอาไว้ด้วยกัน, สู้กันอย่างหนัก และทุ่มเทความพยายามลงไปเต็มที่ แต่หลายครั้งเราก็พบว่า เราต้องเจอความยากลำบากในการเก็บบอลเอาไว้ ซึ่งสถิติการครองบอลคือสิ่งที่บอกถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี มันบอกคุณว่า การก้าวไปข้างหน้าในฐานะคนทั้งประเทศนั้น เราจำเป็นต้องพยายาม และปรับปรุงการเล่นกับบอลให้ได้" กัปตันทีม ลิเวอร์พูล ระบุ
เจอร์ราร์ด เสริมว่า ฟอร์มการเล่นของ อังกฤษ ในครั้งนี้ ถือได้ว่า พัฒนาขึ้นมามากแล้ว หลังจาก "สิงโตคำราม" มีช่วงเวลาแห่งความหายนะ จากการที่พวกเขาแพ้ เยอรมนี ถึง 1-4 ในการแข่งรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้ เป็นเจ้าภาพ "มันดีขึ้นกว่า 2 ปีก่อนแล้วนะ ในการแข่งขันครั้งนี้ เราเล่นกันด้วยฟอร์มในระดับที่สูงกว่าครั้งก่อนหน้านี้แน่ๆ ล่ะ"
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |