อันเดรีย ปีร์โล่ กองกลางมากประสบการณ์ทีมชาติอิตาลี เผย เหตุที่กล้าๆ ยิงลูกชิพใส่ โจ ฮาร์ท นายด่านทีมชาติอังกฤษ จนทำให้ "อัซซูรี่" คว้าชัยเหนือ "สิงโตคำราม" 4-2 ในช่วงดวลจุดโทษ ของเกม ยูโร 2012 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ก็เพราะตนเห็น ฮาร์ท ขยับแปลกๆ พร้อมประกาศชัด ไม่เคยกลัว อังกฤษ เลยแม้แต่นิดเดียว
อันเดรีย ปีร์โล่ มิดฟิลด์จอมเก๋าทีมชาติอิตาลี เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนยิงลูกชิพใส่ โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ในช่วงการดวลจุดโทษ เกมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ "อัซซูรี่" พิชิต "สิงโตคำราม" ด้วยการชนะ 4-2 ในการดวลเป้า หลังจบ 120 นาที เสมอกัน 0-0 ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะตนเห็นว่า ฮาร์ท ขยับแบบแปลกๆ
แมตช์นี้ต่างฝ่ายต่างก็บุกแลกกันอย่างสนุก แต่เป็น อิตาลี ที่ครองเกม และมีโอกาสจบสกอร์มากกว่า ทว่าทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่อาจส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่ายได้ ทำให้จบ 90 นาที เสมอกันที่ 0-0 และส่งผลให้นี่เป็นคู่แรกในศึกยูโร 2012 ที่เจ๊ากันแบบโนสกอร์ ขณะที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีนั้น ทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถทำสกอร์ได้อยู่ดี จนทำให้ต้องมาตัดสินหาผู้ชนะกันที่การดวลลูกจุดโทษ
ท้ายที่สุดเป็น อิตาลี ที่แม่นกว่า ซัดพลาดไปแค่คนเดียว ซึ่งก็คือ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ในขณะที่ อังกฤษ ยิงไม่เข้า 2 คน ได้แก่ แอชลี่ย์ ยัง และ แอชลี่ย์ โคล ทำให้พลพรรค "อัซซูรี่" คว้าชัยในการดวลจุดโทษด้วยสกอร์ 4-2 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ เยอรมนี ที่สนาม เนชั่นแนล สเตเดี้ยม กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายนนี้ต่อไป
ปีร์โล่ ให้สัมภาษณ์ว่า "ตอนนั้นผมเห็นผู้รักษาประตูทำการขยับแบบแปลกๆ ดังนั้นผมก็เลยรอให้เขาขยับก่อน แล้วจากนั้นจึงยิงแบบนั้น ในช่วงนั้นเนี่ย สำหรับผมแล้วการยิงลูกชิพเป็นเรื่องที่ง่ายกว่านะ บางทีความพยายามของผมอาจทำให้ อังกฤษ เจอความกดดันก็ได้ และ แอชลี่ย์ ยัง ก็ยิงพลาดหลังจากผมทันที"
"ผมไม่ได้กลัวว่าจะแพ้อย่างคาดไม่ถึงเลย เพราะ อังกฤษ แทบไม่ได้สร้างสรรค์อะไรเลย พวกเขาแค่พยายามป้องกันผลการแข่งขัน และดึงเราไปวัดกันในช่วงดวลจุดโทษ ซึ่งเราก็ยังควบคุมตัวเองกันได้ดี และสุดท้ายก็เป็นฝ่ายชนะ เรารู้ดีว่า เราสามารถควบคุมเกมการแข่งขันได้ เพราะ อังกฤษ เป็นทีมที่เล่นแบบตั้งรับกันลึกมากๆ และเราก็เห็นถึงเรื่องนั้น จากแนวทางที่พวกเขาเล่นในเกมทุกนัดของรอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่ม ดี) มันก็แค่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องใช้เวลานานถึงขนาดนี้ รวมถึงต้องใช้เรี่ยวแรงไปมาก กว่าที่จะเอาชนะพวกเขาได้"
"เราครอบครองเกมเอาไว้ได้อย่างสิ้นเชิง และมันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราปิดสกอร์ไม่ได้ ในระหว่าง 90 นาที หรือในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่อย่างน้อยที่สุด การดวลจุดโทษก็ทำให้ทีมที่คู่ควรกับการชนะเป็นฝ่ายเข้ารอบต่อไปได้ล่ะนะ ส่วน มาริโอ บาโลเตลลี่ ก็ทำงานหนักมาก และช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ดี ในจังหวะจบนั้น เขามีข้อผิดพลาดที่น้อยมาก แต่เขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพอยู่แล้ว และเขาจะพัฒนาได้ดีขึ้น" มิดฟิลด์จาก ยูเวนตุส ร่ายยาว
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |