เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยอมรับ นอกจากเป้าหมายคือการพา อังกฤษ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม ศึกยูโร 2012 แล้ว เขายังต้องการพิสูจน์ตัวเองในเวทีลูกหนังระดับนานาชาติด้วย เหตุตั้งแต่แจ้งเกิดใน ยูโร 2004 ก็เหลวเป๋วใน เวิลด์ คัพ 2006 และ 2010
เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ของทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเผยว่า เขากระสันลงสนามไปพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ว่า เป็นนักเตะที่พร้อมเปล่งประกายเจิดจ้าในเวทีระดับโลก หลังจากพ้นโทษแบน 2 นัด เตรียมลงสนามช่วยทีม "สิงโตคำราม" ทำศึกกับ ยูเครน เจ้าภาพร่วม ศึกยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสุดท้าย วันอังคารนี้ หลังจากล้มเหลว และผิดหวังมาตลอด ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2006 และ 2010
รูนี่ย์ โดนแบน 2 นัดแรก จากการโดนไล่ออกในเกมรอบคัดเลือก ยูโร 2012 ซึ่งผลเสมอ ฝรั่งเศส และชนะ สวีเดน ทำให้ อังกฤษ ต้องการผลเสมออย่างน้อย เพื่อการันตีการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย และพวกเขาจะมี รูนี่ย์ กลับมาช่วย พร้อมความกระหายเต็มที่ ทั้งเพื่อช่วยทีมเข้ารอบ ตลอดจนการพิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากตั้งแต่แจ้งเกิดเต็มตัวในยูโร 2004 ที่ โปรตุเกส เขาล้มเหลวในเวิลด์ คัพ ปี 2006 ที่ อังกฤษ จอดป้ายรอบ 8 ทีม และเขาโดนไล่ออก ขณะมี ฟุตบอลโลก 2010 เขาก็มีผลงานที่น่าผิดหวัง
"ผม คิดว่าประตูล่าสุดที่ผมทำได้ในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์คือตอน ยูโร 2004 แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้น สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ผมเลยหวังว่าจะได้เล่น และยิงประตูได้ในเกมวันอังคารนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองมีอะไรจะทำให้ทีมเยอะ ผมตั้งมาตรฐานของตัวเองเอาไว้สูง ผมทำงานหนักเพื่อพัฒนาการเล่น และการยิงประตู ผมยังทำผลงานในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติไม่ดีพอ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการทำให้มันดีขึ้น"
"ผมคงไม่รับปาก อะไร เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่หวังอย่างยิ่งว่าถ้าผมทำได้ มันจะทำให้ทีมมีโอกาสดีที่จะเข้ารอบลึกๆ ของรายการ" ดาวยิงวัย 26 ปี กล่าว ก่อนเอ่ยถึงความล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2006 และ 2010 อย่างมีความเป็นผู้ใหญ่ว่า "ในฐานะนักเตะคุณย่อมมีช่วงเวลาที่น่าผิดหวัง แต่บางครั้งคุณก็ต้องผ่านช่วงเวลาพวกนั้นเพื่อรับประสบการณ์ของการมีช่วง เวลาที่ดี"
"เรื่องพวกนั้นมันผ่านมาแล้ว ผมเองก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากหรอก แต่มันเกิดขึ้นแล้ว และคุณต้องก้าวไปกับมัน ผมหวังว่าจะทำให้ดีที่สุด และช่วยทีมประสบความสำเร็จ ผมหวังว่าถ้าผมเล่นดี ยิงประตูได้ ทีมจะมีโอกาสดี" หัวหอกเบอร์หนึ่งของวงการลูกหนังอังกฤษ กล่าว พร้อมเปรียบเทียบสมัยเล่น ยูโร 2004 ตอนอายุ 18 ปี กับตอนนี้ที่เขาอายุ 26 แล้ว โดยชี้ว่า จากที่เล่นอย่างมุทะลุดุดัน ตอนนี้ใช้สมองมากขึ้น
"ปี 2004 ผมอายุ 18 ปี และคุณยังไม่รู้จักเกมฟุตบอลมากอย่างที่คุณคิด ดังนั้นจึงมีหลายๆ ครั้งที่คุณเล่นไปตามสัญชาติญาณ มันมีความดิบอยู่ แต่ยิ่งคุณแก่ขึ้น คุณก็ผ่านเกมมากขึ้นๆ คุณมองสิ่งต่างๆ ในแนวทางที่ต่างไป และผมพยายามทำแบบนั้น มันได้ผลดีในระดับสโมสร แต่ยังทำได้ไม่ดีนักในระดับทีมชาติ หวังว่าคราวนี้ผมจะทำได้"
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |