ลาร์ส เบนเดอร์ ยิงประตูชัยช่วย"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน เฉือนชนะ"โคนม" เดนมาร์ก ไป 2:1 ลิ่วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับ กรีซ รองแชมป์กลุ่มเอ
ฟุตบอล ยูโร 2012
(รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม บี)
วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 2555
เดนมาร์ก 1 - 2 เยอรมนี
สนาม : อารีน่า ลวีฟ, ลวีฟ ยูเครน
"โคนม" เดนมาร์ก ภายใต้การคุมทีมของ มอร์เตน โอลเซ่น เปิดฉากทัวร์นาเมนต์ด้วยการพลิกล็อกปราบ ฮอลแลนด์ 1-0 ก่อนจะมาแพ้หวิวต่อโปรตุเกส 2-3 อย่างน่าเสียดาย ทำให้มีโอกาสเข้าและตกรอบพอๆ กัน เกมนี้จะไม่มี เดนนิส รอมเมดาห์ล ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากนัดที่แล้ว แต่ได้รับข่าวดีเมื่อ นิกิ ซิมลิง สามารถเช็คความฟิตผ่านได้ลงเล่นในเกมนี้ เกมนี้ขอแค่เสมอ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี จะผ่านเข้ารอบทันที
ด้านทัพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ภายใต้การคุมทีมของ โยอัคคิม เลิฟ คว้าชัยมา 2 เกมรวดด้วยการชนะ โปรตุเกส และ ฮอลแลนด์ ด้วยสกอร์ 1-0 และ 2-1 ตามลำดับ โดยเกมนี้ขอแค่ไม่แพ้ต่อเดนมาร์ก ก็จะการันตีการคว้าแชมป์กลุ่ม บี ทันที เกมนี้จะไม่มี เยโรม บัวเต็ง กองหลังเชื้อสายกานา ที่ได้รับใบเหลืองครบโควตา ติดโทษแบน ส่วนตำแหน่งอื่นยังคงใช้แข้งชุดเดิมทั้งหมด
เริ่มเกมมาเพียงแค่ 2 นาที ''อินทรีเหล็ก'' เยอรมนี ได้ทักทายก่อนเมื่อ เมซุต โอซิล พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้ากลางบอลเลยหัว มาริโอ โกเมซ มาถึง โธมัส มุลเลอร์ ได้ซัดในกรอบเขตโทษแต่บอลดันเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 6 อินทรีเหล็ก ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ลูคัส โพดอลสกี้ ครอสบอลมาให้ โธมัส มุลเลอร์ ได้ซัดระยะ 6 หลา แต่ยังไม่ผ่านมือ สเตฟาน อันเดอร์เซ่น ยังเซฟเอาไว้ได้
เยอรมนี ยังคงเดินหน้าบุกอยู่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 12 มาริโอ โกเมซ หัวหอกจากบาเยิร์น มิวนิค ซัดไกลด้วยเท้าซ้ายระยะร่วม 20 หลา แต่กดบอลไม่ลงข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น
นาทีที่ 15 ''โคนม'' เดนมาร์ก เปิดเกมสวนกลับมาบ้าง นิคลาส เบนท์เนอร์ ดาวยิงอาร์เซน่อล ซัดด้วยเท้าขวาข้างถนัดเต็มข้อ ระยะ 30 หลา แต่บอลไม่เข้ากรอบ พลาดโอกาสทองไป
เป็น ''อินทรีเหล็ก'' เยอรมนี ที่ได้ประตูขึ้นนำจนได้ นาทีที่ 19 จังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ เปิดบอลมาเสาแรกให้ มาริโอ โกเมซ สกิดต่อบอลมาถึง ลูคัส โพดอลสกี้ หัวหอกตัวใหม่อาร์เซน่อล ซัดด้วยขวาเต็มแรงระยะ 12 หลา บอลพุ่งแรง สเตฟาน อันเดอร์เซ่น ปัดแล้วแต่ไม่ออก เยอรมนี นำ 1-0 ฉลองประตูทีมชาติลงเป็นนัดที่ 100
เดนมาร์ก เปิดเกมแลกทันทีและมาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็ว นาทีที่ 24 ลาร์ส ยาค็อบเซ่น เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวา นิคลาส เบนท์เนอร์ โหม่งบอลเข้ากลางให้ ไมเคิ่ล โครห์น-เดห์ลี แข้งบรอนด์บี้ ขึ้นโขกเหน่งๆ ลูกพุ่งเข้ากลางประตูหมดสิทธิ์ที่ มานูเอล นอยเออร์ จะเซฟได้ โคนม ตีเสมอเป็น 1-1
นาทีที่ 37 อินทรีเหล็ก มาได้ลูกฟรีคิกตรงเส้น 18 หลา จังหวะที่ ซิมอน เคียร์ ไปเตะ โธมัส มุลเลอร์ และเป็น ลูคัส โพดอลสกี้ หัวหอกตัวใหม่ปืนซัดด้วยขวาเต็มแรงบอลลอยข้ามกำแพงเหินข้ามคานไปไกล
นาทีที่ 43 เยอรมนี เกือบได้ประตูขึ้นำจังหวะที่ มาริโอ โกเมซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ยังดี ซิมอน เคียร์ เข้ามาจิ้มบอลก่อนจังหวะ กำลังจะตามเข้าไปซ้ำแต่ดันไปเข้ามือ สเตฟาน อันเดอร์เซ่น พลาดทำประตูออกนำ
ท้ายเกมครึ่งแรกยังคงเป็น ''อินทรีเหล็ก'' เยอรมนี ที่เดินหน้าบุกมากกว่าแต่ก็ยังไม่สามารถพังประ ''โคนม'' เดนมาร์ก ได้ทำให้จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 1-1
กลับมาลงเล่นครึ่งหลังกันต่อ ''โคนม'' เดนมาร์ก ได้เสียวก่อน นาทีที่ 51 ซิมอน โพลเซ่น แบ็กอาแซ่ด อัลค์มาร์พาบอลมาถึงเส้นหลังก่อนจะตวัดต่อให้ ยาค็อบ โพลเซ่น วิ่งเข้ามากดเต็มเท้าระยะ 18 หลาบอลพุ่งเลียดเฉี่ยวเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
อินทรีเหล็ก เปิดเกมสวนกลับมาบ้าง นาทีที่ 63 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ได้โอกาสซัดไกลด้วยขวาระยะ 25 หลา แต่ยิงไม่ดีไปติดบล็อค ซิมอน เคียร์ ที่เคลียร์ทิ้งไปได้ก่อน จังหวะต่อมา นิคลาส เบนท์เนอร์ เกือบโดนใบเหลืองเมื่อไปเสียบ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ยังดีที่กรรมการแค่เตือน
นาทีที่ 64 โยอัคคิม เลิฟ ปรับเกมโดยถอด ลูคัส โพดอลสกี้ หัวหอกตัวใหม่อาร์เซน่อล คนทำประตูออก แล้วส่ง อันเดร ชูรร์เล่ มิดฟิลด์ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ลงเล่นแทน
นาทีที่ 71 ''โคนม'' เดนมาร์ก รูปเกมโดยรวมดูจะเหนือกว่า และมาได้ลุ้นอีกครั้งจาก นิกิ ซิมลิง ซัดด้วยขวาระยะกว่า 25 หลา แต่ยังดีที่ มานูเอล นอยเออร์ ยังไม่พลาดปัดทิ้งออกไปได้
โยอัคคิม เลิฟ เหมือนจะต้องการแค่ผลเสมอ นาทีที่ 74 โยอัคคิม ปรับเกมอีกครั้งโดยถอด มาริโอ โกเมซ ออกมาพักแล้วส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกตัวเก๋าจาก ลาซิโอ ลงสนาม
5 นาทีถัดมา มอร์เตน โอลเซ่น กุนซือเดนมาร์ก เปลี่ยนตัวบ้างโดยส่ง คริสเตียน โพลเซ่น ลงเล่นแทน นิกิ ซิมลิง มิดฟิลด์จากคลับ บรูช
นาทีที่ 80 แฟนบอล ''อินทรีเหล็ก'' เยอรมนี ได้เฮอีกครั้งเมื่อมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะโต้กลับ เมซุต โอซิล ก่อนจะแทงบอลทะลุแผงหลัง เดนมาร์ก ให้ ลาร์ส เบนเดอร์ แบ็กไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นหลุดเข้าไปแปโล่งๆ เยอรมนี ขึ้นนำ 2-1
สองนาทีต่อมา เดนมาร์ก ต้องรีบแก้เกมโดยส่ง โทเบียส มิคเคลเซ่น ลงเล่นแทนเปลี่ยนตัวกับ ยาค็อบ โพลเซ่น
นาทีที่ 84 เยอรมนี เปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้ายโดยถอด โธมัส มุลเลอร์ มิดฟิลด์จากบาเยิร์น มิวนิค ที่เกมนี้เล่นเด่นมากออกแล้วส่ง โทนี่ โครส เพื่อนร่วมสโมสรลงสนาม
ท้ายเกม ''โคนม'' เดนมาร์ก เดินหน้าเปิดแลกแต่ก็ไม่สามารถยิงประตู ''อินทรีเหล็ก'' เยอรมนี ได้ทำให้จบเกม เยอรมนี เป็นฝ่ายเอาชนะไป 2-1 มี 9 แต้มเต็มชนะมาสามเกมรวด เข้ารอบเป็นที่หนึ่งของกลุ่มบี ส่งผลให้ เดนมาร์ก ต้องกระเด็นตกรอบหลังสามนัด มีแค่ 3 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เดนมาร์ก : สเตฟาน อันเดอร์เซ่น - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ซิมอน เคียร์, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ (กัปตันทีม), ซิมอน โพลเซ่น - วิลเลี่ยม ควิสท์ - คริสเตียน อีริคเซ่น, ยาค็อบ โพลเซ่น (โทเบียส มิคเคลเซ่น น.82), นิกิ ซิมลิง (คริสเตียน โพลเซ่น น.79), ไมเคิ่ล ครอห์น-เดห์ลี - นิคลาส เบนท์เนอร์
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด (ผู้รักษาประตู), แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (ผู้รักษาประตู), เดนนิส รอมเมดาห์ล, อันเดรียส เยลลันด์, โยเรส โอโคเร่, ลาสส์ โชน, ไมเคิ่ล ซิลแบร์เบาเออร์, นิคลาส พีเดอร์เซ่น, ดาเนี่ยล วาสส์, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก
ใบเหลือง : -
เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์ - ลาร์ส เบนเดอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม) - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์ (โทนี่ โครส น.84), เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ (อันเดร เชือร์เล่ น.64) - มาริโอ โกเมซ (มิโรสลาฟ โคลเซ่ น.74)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ทิม วีเซ่ (ผู้รักษาประตู), รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ (ผู้รักษาประตู), อิลคาย กุนโดกัน, มาร์เซล ชเมลเซอร์, เบเนดิคท์ เฮอเวเดส, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, มาริโอ เกิทเซ่, มาร์โค รอยส์
ใบเหลือง : -
ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)
สถิติหลังเกม
เดนมาร์ก เยอรมัน
9(2) ยิงทั้งหมด(เข้ากรอบ) 12(4)
8 ฟาวล์ 6
5 เตะมุม 3
4 ล้ำหน้า 2
40% เปอร์เซนต์การครองบอล 60%
0 ใบเหลือง 0
0 ใบแดง 0
2 ช็อตเซฟ 1
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |