คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟอร์มแข้งคมกริบซัดคนเดียวสองตุง ช่วย "ฝอยทอง" โปรตุเกส ไล่ยิงแซง "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ 2-1 เก็บสามแต้มล้ำค่าจบรองจ่าฝูงของกลุ่ม ผ่านเข้ารอบต่อไปตามเป้าหมาย ขณะที่ ฮอลแลนด์ ทำผลงานได้ย่ำแย่ 3 นัดไม่มีแม้แต่แต้มเดียวตกรอบแรกตามระเบียบ ในศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม บี. เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูโร 2012
(รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม บี)
วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 2555
โปรตุเกส 2 - 1 ฮอลแลนด์
สนาม : เมตาลิสต์ สเตเดี้ยม, คาร์คิฟ, ยูเครน
สถานการณ์ของ โปรตุเกส หากชนะเกมนี้จะเข้ารอบทันที ยกเว้นกรณีที่ผลอีกคู่ เดนมาร์ก ชนะ เยอรมัน ประตูเดียวแต่ยิง 3 ลูกขึ้นไป เช่น 3-2 หรือ 4-3 ขณะที่มุมเสมอ โปรตุเกส ก็ยังมีลุ้น หากว่า เดนมาร์ก ไม่ชนะ เยอรมัน และถ้า โปรตุเกส แพ้ก็ยังได้ลุ้นอยู่ดี หากแพ้แค่ประตูเดียว และผลอีกคู่ เยอรมันชนะ
ขณะที่สถานการณ์ของ ฮอลแลนด์ บีบบังคับเยอะทีเดียว พวกเขาต้องชนะสถานเดียว และต้องชนะ 2 ประตูขึ้นไปด้วย แล้วลุ้นให้ผลอีกคู่ เยอรมัน เอาชนะ เดนมาร์ก ให้ได้เท่านั้น
เปาโล เบนโต้ เทรนเนอร์ โปรตุเกส ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเกมนี้มีเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ราอูล เมยเรเลส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา และ เอลแดร์ ปอสติก้า ที่คาดโทษอยู่ต้องระวังใบเหลืองเพิ่ม
ทางฝั่ง เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ เทรนเนอร์ อัศวินสีส้ม อยู่ในสถานการณ์ที่กดดันหนัก ทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปรับแท็กติกมาเน้นเกมรุกเต็มที่โดยส่ง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ลงสนามเป็นสิบเอ็ดคนแรกตั้งแต่ต้นเกม แทน มาร์ค ฟาน บอมเมล กัปตันทีมที่ระยะหลังช้าไปเยอะ
เริ่มเกมมา ฮอลแลนด์เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที ด้าน โปรตุเกส ยังยืนคุมโซนเพื่อรอโอกาสสวนกลับ
นาทีที่ 4 อาร์เยน ร็อบเบน ลากบอลหลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวา แล้วโยนบอลไปที่เสาสอง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ วอลเลย์แบบไม่จับบอลออกข้างไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 7 โปรตุเกสได้ลุ้นบ้างจากลูกฟรีคิกระยะไกล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งยิงบอลแฉลบกำแพงออกหลังไป
นาทีที่ 11 อาร์เยน ร็อบเบน ไหลบอลให้ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นบอลด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลพุ่งโค้งหนีมือ รุย ปาตริซิโอ เสียบเสาให้ ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายออกนำ 1-0
นาทีที่ 11 อาร์เยน ร็อบเบน ไหลบอลให้ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นบอลด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลพุ่งโค้งหนีมือ รุย ปาตริซิโอ เสียบเสาให้ ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายออกนำ 1-0
นาทีที่ 15 ทีมฝอยทองได้ลุ้นอีกครั้ง ฟาบิโอ โกเอนเตรา ลากบอลขึ้นมาก่อนไหลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลชนโคนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 17 จากความผิดพลาดของฮอลแลนด์ที่จ่ายคืนหลังพลาด ทำให้ เอลแดร์ ปอสติก้า ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงแต่ไม่ผ่านมือ มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก ที่ปัดออกหลังไปได้
นาทีที่ 23 หลุยส์ นานี่ บรรจงโยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้โขกเต็มๆแต่ มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก พุ่งปัดไว้ได้แบบเหลิอเชื่อ
นาทีที่ 28 เจา เปเรยร่า จ่ายบอลทะลุแนวรับให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาผ่านตัว มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก โปรตุเกส ตามตีเสมอ 1-1 เป็นผลสำเร็จ
นาทีที่ 28 เจา เปเรยร่า จ่ายบอลทะลุแนวรับให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาผ่านตัว มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก โปรตุเกส ตามตีเสมอ 1-1 เป็นผลสำเร็จ
หลังเสียประตู ฮอลแลนด์ ฟอร์มหลุดไปดื้อๆทำเกมไม่ได้เลย ขณะที่ โปรตุเกส ทำเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง
นาทีที่ 35 โปรตุเกส ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุม เจา มูตินโญ่ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งเข้าโขกออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 41 ทีมฝอยทอง ยังบุกต่อเนื่องและก็เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าเก่าที่ยิงด้วยซ้ายระยะ 12 หลา แต่บอลพุ่งออกข้างอีกครั้ง
จบครึ่งแรก โปรตุเกส เสมอกับ ฮอลแลนด์ 1-1 โดยรูปเกม โปรตุเกส เหนือกว่ามาก
กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น
นาทีที่ 51 เยโทร วิลเล่มส์ ของฮอลแลนด์รับใบเหลืองคนแรกของเกม หลังไปพุ่งเสียบใส่ เจา มูตินโญ่
นาทีที่ 53 ฮอลแลนด์ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เล่นสั้นกับ อาร์เยน ร็อบเบน ก่อนเปิดเข้าไปให้ รอน ฟลาร์ ได้โหม่งโล่งๆแต่บอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 60 เอลแดร์ ปอสติก้า ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน
นาทีที่ 64 โปรตุเกส เปลี่ยนตัวคนแรก เนลสัน โอลิเวยร่า ลงเล่นแทน เอลแดร์ ปอสติก้า
นาทีที่ 66 โรนัลโด้ ลากบอลกว่าครึ่งสนามก่อนจ่ายบอลให้ ฟาบิโอ โกเอนเตรา ได้ยิงเต็มๆระยะ 18 หลา แต่ยังไม่ผ่านมือ มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก
นาทีที่ 67 อัศวินสีส้ม เติมเกมบุกเต็มสูบส่ง อิบราฮิม อเฟลลาย ปีกตัวเก่งลงสนามมาแทน เยโทร วิลเล่มส์ แบ็กซ้าย
นาทีที่ 69 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับใบเหลืองจากจังหวะที่ไปขึ้นแย่งโหม่งแล้วไปกางศอกใส่ เปเป้
นาทีที่ 71 โปรตุเกส เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยส่ง คัสตูดิโอ ลงสนามมาแทน ราอูล เมยเรเลส
นาทีที่ 72 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายบอลไปที่เสาสองให้ หลุยส์ นานี่ ได้ยิงจ่อๆ แต่ไปติดตัว สเตเคเลนเบิร์ก
นาทีที่ 74 โปรตุเกสโต้กลับเร็ว หลุยส์ นานี่ ผ่านบอลเข้าเขตโทษไปที่เสาสองให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดเสียบเสาแรก โปรตุเกส พลิกขึ้นนำ 2-1 และเป็นลูกที่สองของ ดาวยิงจากเรอัล มาดริดในเกมนี้
นาทีที่ 80 โปรตุเกสยังไม่เพลาเกมบุกและเกือบได้ประตูเพิ่มจากลูกเตะมุม บรูโน่ อัลเวส โหม่งตั้งไปที่หน้ากรอบเขตโทษให้ เนลสัน โอลิเวยร่า ได้โหม่งแต่บอลไปตรงตัว สเตเคเลนเบิร์ก
นาทีที่ 82 ฮอลแลนด์ เกือบได้ประตูตีเสมอ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นบอลด้วยขวาระยะ 30 หลา บอลพุ่งโค้งชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 84 โปรตุเกส ได้สวนกลับบ้าง หลุยส์ นานี่ หลุดเข้าไปชิพข้ามตัวผู้รักษาประตูไปแล้วแต่แรงไปบอลไปตกบนตาข่าย
นาทีที่ 87 โปรตุเกสตัดสินใจถอดเอา หลุยส์ นานี่ ออกและส่ง โรลันโด้ กองหลังจากเอฟซี ปอร์โต้ ลงสนามแทน
นาทีที่ 88 เวสลี่ย์ สไนเดอร์ แทงบอลให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแต่เจ้าตัวกลับยิงออกข้างอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 90 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พลาดทำแฮตริกอย่างน่าเสียดาย เมื่อได้สับไกด้วยขวาเต็มแรงระยะ 20 หลา บอลพุ่งชนโคนเสากระดอนออกมา
ช่วงทดเวลาเจ็บ เจา เปเรยร่า รับใบเหลืองคนแรกของ โปรตุเกส หลังไปเตะ อาร์เยน ร็อบเบน ล้มลงเพื่อหยุดเกม
จบเกม โปรตุเกส เป็นฝ่ายชนะ ฮอลแลนด์ 2-1 เก็บเพิ่มสามแต้มเข้ารอบเป็นที่สองของกลุ่ม ขณะที่ ฮอลแลนด์ ต้องตกรอบแรกด้วยการแพ้สามนัดรวด ไม่มีแต้มติดมือเลย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โปรตุเกส: รุย ปาตริซิโอ - เจา เปเรยร่า, บรูโน่ อัลเวส, เปเป้, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ราอูล เมยเรเลส (คุสโตดิโอ น.71), มิเกล เวโลโซ่, เจา มูตินโญ่ - หลุยส์ นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า (เนลสัน โอลิเวยร่า น.64), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม)
สำรอง: เอดูอาร์โด้ (ผู้รักษาประตู) - เบโต้ (ผู้รักษาประตู) - อูโก้ อัลเมยด้า, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, ริคาร์โด้ คอสต้า, โรลันโด้, รูเบน มิคาเอล, ซิลเวสเตร วาเลร่า, อูโก้ มิเกล โลเปส, อูโก้ วิอาน่า
ใบเหลือง: เจา เปเรยร่า น.90+2
ฮอลแลนด์: มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก - เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, รอน ฟลาร์, โยริส มาไธจ์เซ่น, เจโตร วิลเลมส์ (อิบราฮิม อเฟลลาย น.67) - ไนเจล เดอ ย็อง, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท (กัปตันทีม) - อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ - คลาส ยาน ฮุนเตลาร์
สำรอง: มิเชล ฟอร์ม (ผู้รักษาประตู) - ทิม ครูล (ผู้รักษาประตู) - จอห์นนี่ ไฮติงก้า, วิลเฟรด เบาม่า, มาร์ค ฟาน บอมเมล, เดิร์ค เค้าท์, สไตน์ ชาร์ส, เควิน สตรูทมัน, ลุค เดอ ยองก์, ลูเซียโน่ นาร์ซิงห์, คาลิด บูห์ลารูซ
ใบเหลือง: เจโตร วิลเลมส์ น.51, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.69
ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน: เรนาโต้ ฟาเวรานี่ (อิตาลี), อันเดรีย สเตฟานี่ (อิตาลี)
ผู้ตัดสินคนที่ 4: มาร์ติน แอ็ตกินสัน (อังกฤษ)
สถิติหลังเกม
โปรตุเกส ฮอลแลนด์
24(8) ยิงทั้งหมด (เข้ากรอบ) 14(3)
17 ฟาวล์ 12
7 เตะมุม 5
4 ล้ำหน้า 1
38% เปอร์เซนต์การครองบอล 62%
1 ใบเหลือง 2
0 ใบแดง 0
2 ช็อตเซฟ 6
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |