โยฮัน กาบาย ซัดปิดกล่องช่วย "ตราไก่" ฝรั่งเศส ไล่อัด "เจ้าภาพร่วม" ยูเครน ไปแบบสุดมันส์ 2-0 เก็บสมามแต้มสำคัญมีโอกาสเข้ารอบต่อไปสูง ขณะที่ "เจ้าภาพร่วม" ยูเครน ที่พลาดท่าเกมนี้ก็ยังคงมีลุ้นเข้ารองต่อไปในเกมสุดท้ายเช่นกัน ในศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มดี. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มดี
วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2555
ยูเครน 0 - 2 ฝรั่งเศส
สนาม : ดอนบาส อารีน่า (โดเนตส์ค, ยูเครน)
เจ้าภาพ ยูเครน เปิดบ้านลงทำศึกนัดที่ 2 กลุ่มดี พบ "ตราไก่" ฝรั่งเศส โดยเกมนี้ สองคู่หูตัวเก๋าของเจ้าบ้านอย่าง อังเดร โวโรนิน และ อังเดร เชฟเชนโก้ ยังลงสนามเป็นตัวจริง ขณะที่ ทีมน้ำหอม ส่ง กาแอล กลิชี่ แทน ปาทริซ เอวร่า ในตำแหน่งแบ็คซ้าย ส่วนแนวรุกยังส่ง ซามีร์ นาสรี่,ฟร้องค์ ริเบรี่ และ คาริม เบนเซม่า เป็นสามประสานป่วนแนวรับ ยูเครน
เริ่มเกมมาเพียง5นาที ผู้ตัดสิน บียอร์น ไคเปอร์ส จากฮอลแลนด์ ได้เป่านกหวีดยุติเกมชั่วคราว เนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวย ฝนตกหนัก จนไม่อาจจะสามารถแข่งขันได้
เกมหยุดไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะกลับมาแข่งกันต่อ และเพียงแค่นาทีเดียว ขุนพลตราไก่ ก็ได้ลุ้นทันที เมื่อ คาริม เบนเซม่า ได้ซัดด้วยขวา ระยะประมาณ 20 หลา แต่ไม่ผ่านมือ อังเดร เปียตอฟ
นาทีที่ 10 ยังเป็นชอตของฝรั่งเศส มาติเยอ เดอบู กองหลังจากสโมสรลีลล์ ได้เติมขึ้นมายิง ร่วม 25 หลา แต่ยังติดเซฟของ นายด่านยูเครน
จากนั้นอีก 6 นาทีต่อมาแฟนๆ ฝรั่งเศสต้องเฮกันเก้อ เมื่อ ฟร้องค์ ริเบรี่ แทงทะลุช่อง ให้ เฌรมี่ เมเนซ หลุดไปยิงผ่าน อังเดร เปียตอฟ ตุงตาข่ายแล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
เจ้าภาพร่วม มาได้โอกาสบ้าง ในนาทีที่ 25 จากจังหวะที่ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะสับขาหลอกกองหลัง ฝรั่งเศส และอัดด้วยซ้าย บอลเลียดหลุดเสาแรกแบบได้เสียว
ทีมตราไก่ โต้มาทันควัน และน่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ ในนาทีที่ 29 เมื่อผู้เล่นยูเครน ส่งบอลคืนหลังพลาด ฟร้องค์ ริเบรี่ สปีดไปเอาบอลทางฝั่งซ้ายก่อนตบมาหน้าประตูถึง เฌรมี่ เมเนซ ได้ซัดด้วยขวาคนเดียวโล่งๆ แต่ติดเซฟอังเดร เปียตอฟ อย่างน่าเสียดาย
เกมเริ่มแรกกันสนุก 5 นาทีต่อมายูเครน ก็ได้ลุ้นบ้าง บอลยาวจากหลังมาให้ อังเดร เชฟเชนโก้ ได้หลุดกับดักล้ำหน้า ไปซัดด้วยขวาเต็มๆ ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ร้อนถึง อูโก้ โยริส ต้องออกแรงทุบออกไปได้
นาทีที่ 39 ขุนพลตราไก่ น่าได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิกทางขวา ซามีร์ นาสรี่ เปิดโค้งไปที่เสาสอง ถึง ฟิลิปป์ เม็กแซส ได้โขกเน้นๆ แต่เป็น อังเดร เปียตอฟ ปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นอีกเพียงนาทีเดียว ก็มีใบเหลืองแรกของเกม เมื่อ เฌรมี่ เมเนซ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของฝรั่งเศส ไปทำฟาวล์ตัดเกมใส่ อังเดร เชฟเชนโก้
จากนั้นทั้งสองทีมก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก ยูเครน เสมอ ฝรั่งเศส อยู่ 0-0
เริ่มครึ่งหลังยูเครน เปลี่ยนตัวคนแรกทันทีส่ง มาร์โก เดวิช ดาวยิงเมตาลิสต์ คาร์คีฟ ลงมาล่าตาข่ายแทน อังเดร โวโรนิน
ฝรั่งเศส เปิดเกมลุยก่อน นาทีที่ 48 ก็ได้ลุ้นทันที เมื่อ เฌรมี่ เมเนซ ที่วันนี้มีโอกาสเยอะเหลือเกิน ได้หลุดไปซัดในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่มุมแคบเกินไป อังเดร เปียตอฟ ออกมาบล็อกไว้ได้
นาทีต่อมา ยูเครน ตอบโต้มาทันที อังเดร เชฟเชนโก้ กัปตันทีม ได้บอลทางซ้าย ก่อนจะลากตัดเข้ามายิงด้วยขวา ระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมคานบนออกไปนิดเดียว
จนถึงนาทีที่ 53 ก็เป็นพลพรรคตราไก่ ที่ออกนำจนได้ 1-0 จากจังหวะที่คาริม เบนเซม่า จ่ายมาทางซ้ายให้ เฌรมี่ เมเนซ ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่มิดฟิลด์ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง จะล็อกเข้าซ้ายซัดมุมแคบเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 55 เจ้าภาพร่วม มาโดนใบเหลือแรกบ้าง เมื่อ เยฟเกนี่ เซลิน ไปทำฟาวล์ใส่ เฌรมี่ เมเนซ
แต่นาทีต่อมา ฝรั่งเศส ก็หนีห่างไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่คาริม เบนเซม่า คนเดิน จ่ายตัดแนวรับให้ โยอัน กาบาย กลางกลางตัวเก่งนิวคาสเซิ่ล เกี่ยวบอลเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะยิงหักข้อผ่าน อังเดร เปียตอฟ เสียบเสาสองตุงตาข่าย
ยูเครน เริ่มอยู่ไม่ได้แล้ว นาทีที่ 60 จัดการแก้เกมเปลี่ยนคนที่สองทันที ถอด เซร์เกร์ นาซาเรนโก้ กองกลางออก แล้วส่ง อาร์เต็ม มิเลฟสกี้ กองหน้า ดินาโม เคียฟ ลงมาแทน
ฝรั่งเศสยิ่งเล่นยิ่งดี นาทีที่ 65 ก็น่าจะได้ประตูที่ 3 เมื่อโยอัน กาบาย ได้ตะบันไกลด้วยขวา บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมาเจ้าภาพร่วม เปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้าย เอา อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ออก แล้วส่ง โอเล็กซานเดอร์ อาลิเยฟ แทน
นาทีเดียวกันฝรั่งเศส เปลี่ยนตัวคนแรกบ้าง ถอด โยอัน กาบาย ไปพัก แล้วให้ ยันน์ เอ็มวีล่า ลงมาสัมผัสเกมบ้าง
นาทีที่ 73 ทีมตราไก่ เปลี่ยนตัวคนที่สอง เอา เฌรมี่ เมเนซ ผู้ยิงประตูแรกออก แล้วส่ง มาร์กแว็ง มาร์กแต็ง มาแทน
อีก 2 นาทีต่อมา ฝรั่งเศส เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ถอด คาริม เบนเซม่า ออก แล้วให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงมงต์เปลลิเย่ร์ ยืนหน้าแทน
ผ่านไปถึงนาทีที่ 79 ทีมตราไก่ มาโดนเหลืองที่สอง เมื่อ มาติเยอ เดอบูชี่ ไปอัดข้างหลังใส่ เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า
ช่วงท้ายเกม ยูเครน เริ่มเปิดเกมเข้าใส่ นาทีที่ 81 ฟิลิปป์ เม็กแซส ต้องไปตัดเกมใส่ อาร์เต็ม มิเลฟสกี้ ก่อนจะเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษ และเม็กแซส ก็ต้องรับใบเหลืองเป็นของขวัญตอบแทน
และจากจังหวะฟรีคิกของยูเครน โอเล็กซานเดอร์ อาลิเยฟ ตัวสำรอง รับอาสายิง ระยะประมาณ 25 หลา แต่ก็ข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 86 เจ้าภาพร่วมมาโดนเหลืองที่สอง เมื่อ อนาโตลี ติโมชุค ไปตัดเกมใส่ มาร์กแว็ง มาร์กแต็ง ตรงเส้นเขตโทษฝั่งขวา
และจากจังหวะฟรีคิก ซามีร์ นาสรี่ ได้ลองซัดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งไปที่เสาแรก แต่อังเดร เปียตอฟ ยังไวปัดออกหลังได้หวุดหวิด
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บออกไปอีก 3 นาที ก็ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบ 90 นาที "ตราไก่" ฝรั่งเศส โชว์ฟอร์มสวย ทุบชนะ "เจ้าภาพร่วม" ยูเครน 2-0 โดยฝรั่งเศส เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน ขณะที่ ยูเครน มี 3 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ยูเครน : อังเดร เปียตอฟ - โอเล็ก กูเซฟ, ทาราส มิคาลิค, เยฟเกนี่ คาเชริดี้, เยฟเกนี่ เซลิน - อนาโตลี ติโมชุค, อังเดร โวโรนิน (มาร์โค เดวิช น.46) - อังเดร ยาร์โมเลนโก้ (โอเล็กซานเดอร์ อลิเยฟ น.67), เซอร์เก นาซาเรนโก้ (อาร์เต็ม มิเลฟสกี้ น.60), เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า - อังเดร เชฟเชนโก้ (กัปตันทีม)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : มักซิม โควัล (ผู้รักษาประตู), โอเล็กซานเดอร์ กอร์ไยนอฟ (ผู้รักษาประตู), โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์, เดนิส การ์มัช, เวียเชฟสลาฟ เชฟชุค, รุสลัน โรตัน, เยฟเฮน เซเลซนอฟ, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, บ็อกดาน บุตโก้
ใบเหลือง : เยฟเกนี่ เซลิน น.55, อนาโตลี ติโมชุค น.84
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - มาติเยอ เดอบูชี่, อาดิล รามี่, ฟิลิปป์ เม็กแซส, กาแอล กลิชี่ - ซามีร์ นาสรี่, อาลู ดิยาร์ร่า, โยอัน กาบาย (ยันน์ เอ็มวีล่า น.67) - เฌเรมี่ เมเนซ (มาร์กวิน มาร์กแต็ง น.72), คาริม เบนเซม่า (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.76), ฟร้องค์ ริเบรี่
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : สตีฟ ม็องด็องด้า (ผู้รักษาประตู), เซดริก การ์ราสโซ่ (ผู้รักษาประตู), ปาทริซ เอวร่า, มาติเยอ วัลบูเอน่า, แบลส มาตุยดี้, อ็องโตนี่ เรเวยแยร์, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่
ใบเหลือง : มาติเยอ เดอบูชี่ น.78, ฟิลิปป์ เม็กแซส น.81
ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : ซานเดอร์ ฟาน โรเคล (ฮอลแลนด์), เออร์วิน เซนสตรา (ฮอลแลนด์)
ผู้ตัดสินที่ 4 : ทอม ฮารัลด์ ฮาเก้น (นอร์เวย์)
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |