เฟร์นานโด ตอร์เรส ระเบิดฟอร์มร้อนซัดคนเดียวสองตุงช่วย "กระทิงดุ" สเปน ไล่ถล่มโหด "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ขาดลอย 4-0 ส่งผลให้ สเปนขึ้นนำจ่าฝูงของตารางกลุ่มทันทีแต่ยังต้องไปลุ้นเข้ารอบต่อในนัดสุดท้าย ขณะที่ ไอร์แลนด์ เป็นทีมแรกที่ร่วงตกรอบ ในศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่มซี. นัดสอง เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่ม ซี นัดที่สอง
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2555
สเปน 4 - 0 ไอร์แลนด์
สนาม : พีอีจี อารีน่า กดันส์ค
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือ สเปน แชมป์เก่ายูโรและแชมป์ฟุตบอลโลก เปิดฉากเกมแรกมายังไม่เข้าตานัก ต้องไล่ตีเสมอ อิตาลี 1-1 นัดที่แล้ว 11 คนแรกไม่มีกองหน้าเลย เกมนี้เลยจัดเฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนหน้าเป้า และดร็อป เชส ฟาเบรกาส เป็นตัวสำรอง ส่วนตำแหน่งอื่นๆใช่ชุดเดิม นำโดยแนวรุกอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา และ อันเดรส อิเนียสต้า
ฝั่งโจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือ ไอร์แลนด์ นำทีมออกตัวอย่างน่าผิดหวังด้วยการแพ้ต่อ โครเอเชีย 1-3 ทำให้จมบ๊วยของกลุ่มอยู่ในเวลานี้ เกมนี้ปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อย โดยพักเควิน ดอยล์ ไว้ข้างสนาม แล้วให้ ไซม่อน ค็อกซ์ ลงมาเป็นตัวคอยสนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ร็อบบี้ คีน
เริ่มครึ่งแรกไอร์แลนด์เป็นฝ่ายเขี่ยก่อน และก็ได้ทักทายทันที ในนาทีที่ 2 ไซม่อน ค็อกซ์ นักเตะสโมสรเวสต์บรอมวิช ได้จังหวะซัดด้วยซ้าย นอกกรอบเขตโทษ อีเคร์ กาซียาส ต้องออกแรกทุบออกไป
แต่ขุนพลกระทิงดุก็ใช้เวลาไม่นาน นาทีที่ 4 ก็ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ ริชาร์ด ดันน์ ล้มตัวสกัดบอลในเขตโทษได้แล้ว แต่เป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่วิ่งแซงมาจากด้านหลังแย้งเอาบอลมาได้ ก่อนจะลากไปยิงแสกหน้า เชย์ กิฟเว่น บริเวณเขตโทษด้านขวา เสยเพดานตาข่ายสุดสวย
อีก 3 นาทีต่อมา สเปน มาอีกครั้ง คราวนี้ ดาบิด ซิลบา ได้อัดด้วยซ้าย ในกรอบเขตโทษ แต่ไปตรงตัว เชย์ กิฟเว่น รับเข้าซอง
ผ่านมาถึงนาทีที่ 16 ยังคงเป็นทัพ กระทิงดุ ที่ครองเกมได้มากกว่า และก็ได้ลุ้นอีก เมื่อ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังเติมขึ้นมาสูง ก่อนได้สับไกลด้วยขวา ประมาณ 20 หลา แต่ไม่ผ่านมือนายด่าน แอสตัน วิลล่า
สเปนคุมเกมได้หมด 6 นาทีต่อมา อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์เชิงสูงของบาร์เซโลน่า ได้กดด้วยซ้ายนอกกรอบเต็มข้อ ร้อนถึง เชย์ กิฟเว่น ที่วันนี้รับศึกหนักเหลือเกิน พุ่งปัดออกไปได้
ลูกทีมของเดล บอสเก้ เรียงหน้ากันยิง นาทีที่ 26 ครั้งนี้เป็น ชาบี้ อลอนโซ่ ได้ลองซัดไกลร่วม 30 หลา บอลพุ่งแรงข้ามคานออกไปแบบได้เสียว
ถึงนาทีที่ 36 ไอร์แลนด์ มาเสียใบเหลืองแรกของทีม เมื่อ ร็อบบี้ คีน กัปตันทีม ไปกระแทกข้างหลังใส่ อันเดรส อิเนียสต้า
เปอร์เซ็นต์การครองบอลของสเปน เหนือกว่าเยอะ ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที ดาบิด ซิลบา ทำชิ่งให้ ชาบี เอร์นานเดซ ได้แปเน้นๆ ตรงเส้นเขตโทษ กิฟเว่นต้องออกแรงเซฟ อีกครั้ง
นาทีสุดท้าย ทีมยักษ์เขียว มาโดนเหลืองที่สองอีก เมื่อ เกล็น วีแลน ไปเตะข้างหลังใส่ ดาบิด ซิลบา
และจากจังหวะฟรีคิก เกือบกลางสนาม สเปนก็เกือบได้ลูกที่ 2 ชาบี เอร์นานเดซ เปิดไปหน้าประตู กองหลังไอร์แลนด์ โหม่งสกัดออกมาได้ แต่มาเข้าทาง อันเดรส อิเนียสต้า ได้ซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลจะมุดเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่เชย์ กิฟเว่น ยังไวปัดมือเดียวออกหลังไปได้หวุดหวิด
จากนั้นผู้ตัดสินชาว โปรตุเกส ก็เป่าจบ 45 นาทีแรก เป็น "กระทิงดุ" สเปน นำ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ อยู่ 1-0
เปิดฉากครึ่งหลัง โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือไอร์แลนด์ ต้องแก้เกมทันที่โดยส่ง โจนาธาน วอลเตอร์ส ดาวยิงสโต๊ค ซิตี้ ลงมาแทน ไซม่อน ค็อกซ์
แต่เกมก็ยังเป็นของสเปนต่อเนื่อง นาทีที่ 48 อัลบาโร่ อาร์เบลัว เติมขึ้นมาได้ซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ เชย์ กิฟเว่น ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง
และหลังจากนั้นอีกเพียงแค่นาทีเดียว พลพรรคกระทิงดุ ก็หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้ซัดไกล กิฟเว่น ทุบออกมาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา ล็อกหลอกกองหลังไอร์แลนด์ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะแปด้วยซ้ายนิ่มๆ ผ่านมือ เชย์ กิฟเว่นตุงตาข่าย
ถึงนาที 54 สเปน มาโดนใบเหลืองแรกของทีม เมื่อ ชาบี้ อลอนโซ่ ไปเตะข้างหลังตัดเกมใส่ โจนาธาน วอลเตอร์ส
อีก 2 นาทีต่อมา ทีมกระทิงดุ เกือบได้ลูกสาม คราวนี้เป็น ชาบี เอร์นานเดซ ได้แปเน้นๆ ระยะ 12 หลา บอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่เป็น เชย์ กิฟเว่น ที่บินมาปัดมือเดียวได้อย่างเหลือเชื่อ
จากนั้นนาทีที่ 65 สเปน ขยับเปลี่ยนตัวคนแรกเอา ฆาบี มาร์ติเนซ แข้งแอธเลติก บิลเบา ลงมาเล่นกลางรับแทน ชาบี้ อลอนโซ่ ที่เพิ่งโดนใบเหลืองไป
ผ่านมาถึง นาทีที่ 70 สเปน ก็ขยับไปไกลเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา แทงทะลุช่องหลุดกับดักล้ำหน้าให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดไปยิงเสียบเสาแรกไม่เหลือ
และอีก 3 นาทีต่อมา บิเซนเต้ เดล บอสเก้ นายใหญ่สเปน ก็ถอด เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ออก แล้วส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงสนามมาแทน
นาทีที่ 76 ฆาบี มาร์ติเนซ ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมา ก็โดนใบเหลืองคนที่สองของสเปน หลังไปเสียบใส่ เกล็น วีแลน
จากนั้นนาทีเดียว ทีมยักษ์เขียว แก้เกมคนที่สองเอา เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ออก แล้วส่ง เจมส์ แม็คคลีน กองกลางดาวรุ่งซันเดอร์แลนด์ ลงมาแทน
นาทีที่ 80 สเปน ก็มาเปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้ายเอา อันเดรส อิเนียสต้า ออกไปพัก แล้วส่ง ซานติ กาซอร์ล่า ลงมาสัมผัสเกมในสนามบ้าง
นาทีเดียวกัน ไอร์แลนด์ ก็เปลี่ยนคนสุดท้ายเช่นกัน ส่งพอล กรีน ลงมาแทน เกล็น วีแลน
ทัพกระทิงดุ ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 82 ซานติ กาซอร์ล่า ตัวสำรอง ได้ซัดด้วยขวานอกกรอบเต็มๆ เชย์ กิฟเว่น ต้องทุบออกหลังไป
และจากจังหวะเตะมุมนาทีต่อมา สเปน ก็ทิ้งไปสุดกู่เป็น 4-0 ดาบิด ซิลบา เปิดเตะมุมเลียดมาให้ เชส ฟาเบรกาส เตะหลบผู้เล่น ไอร์แลนด์ ในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะแปสวน กิฟเว่น บอลพุ่งชนเสาสองเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 84 ชอน เซนต์ เลดเจอร์ กองหลังของทีม ไอร์แลนด์ ก็มาโดนเหลืองอีกคนหลังไปทำฟาวด์ใส่ ดาบิด ซิลบา
หลังจากนั้นดูเหมือนทัพกระทิงดุจะไม่ทำเกมบุกแล้ว โดยครองบอลเอาไว้เป็นส่วนใหญ่ จบ 90 นาที สเปน ถล่มเอาชนะ ไอร์แลนด์ ไปอย่างขาดลอย 4-0 ส่งทีมยักษ์เขียว ตกรอบเป็นทีมแรกในทัวร์นาเมนต์ ขณะที่สเปน เก็บ 3 แต้มแรก นำจ่าฝูง มี 4 คะแนน เท่ากับโครเอเชีย แต่ประตูได้เสียทัพกระทิงดุดีกว่า
11ผู้เล่นที่ลงสนาม
สเปน (4-3-2-1) : อีเคร์ กาซียาส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว , เซร์คิโอ รามอส , เคราร์ด ปิเก้ , จอรดี้ อัลบา - เซร์คิโอ บุสเกตต์ , ชาบี้ อลอนโซ่ , ชาบี เอร์นานเดซ - ดาบิด ซิลบา , อันเดรส อิเนียสต้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
เทรนเนอร์ : บิเซนเต้ เดล บอสเก้
ไอร์แลนด์ (4-5-1) : เชย์ กิฟเว่น - จอห์น โอเช , ริชาร์ด ดันน์ , ชอน เซนต์ เลดเจอร์ , สตีเฟ่น วอร์ด - เดเมี่ยน ดัฟฟ์ , เกล็น วีแลน , คีธ แอนดรูว์ส , ไอเด้น แม็คเกียดี้, ไซม่อน ค็อกซ์ - ร็อบบี้ คีน
เทรนเนอร์ : โจวานนี่ ตราปัตโตนี่
ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |