เริ่มครึ่งแรกฮอลแลนด์เป็นฝ่ายเขี่ยก่อน ผ่านมา 5 นาที ทั้งสองทีมดูจะเล่นกันอย่างระมัดระวัง เกมอยู่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่
จากนั้นอีก 2 นาทีต่อ เป็นขุนพลดัตช์ ได้ลุ้นก่อน เมื่อ มาร์ค ฟาน บอมเมล ห้องเครื่องตัวกลั่นสโมสรพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เปิดบอลยาวให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดไปจิ้มด้วยซ้ายสุดเหยียด แต่ไปตรงตัว มานูเอล นอยเออร์
เยอรมนี ตอบโต้ทันควัน นาทีที่ 8 จากจังหวะที่ กองหลังฮอลแลนด์ โหม่งสกัดมาเข้าทาง เมซุต โอซิล มิดฟิลด์จอมเทคนิคเรอัล มาดริด ได้ยิงด้วยซ้ายแบบไม่จับหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปโคนชนเสา อย่างน่าเสียดาย ก่อนมาเข้ามือมาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก
เกมเริ่มเปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 11 ฮอลแลนด์มาอีกครั้ง คราวนี้ อาร์เยน ร็อบเบน แทงให้ ฟาน เพอร์ซี่ ได้ซัดด้วยขวาเท้าไม่ถนัดบริเวณเส้นเขตโทษพอดี แต่ดาวยิงดัตช์ ซัดได้ไม่เต็ม บอลกลิ้งหลุดเสาสองออกไปค่อนข้างห่าง
นาทีที่ 18 ยังเป็นจังหวะของ ฮอลแลนด์ อิบราฮิม อเฟลลาย ได้บอลหลุดไปเปิดเน้นๆในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่เป็น แมตส์ ฮัมเมิ่ลส์ สไลด์ตัวสกัดทิ้งออกหลังได้ก่อน
แต่ผ่านไปถึงนาทีที่ 24 กลับเป็น เยอรมัน ที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเซ็ตบอลมาจากกลางสนาม บอลมาถึงบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ แทงทะลุช่องหลุดกับดักล้ำหน้าให้ มาริโอ โกเมซ พลิกบอลหลุดเข้าไปซัดด้วยขวา ผ่านมือ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ไม่เหลือ หลังจากเสียประตู ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทีมอัศวินสีส้ม ครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่ แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอ
และนาทีที่ 37 ก็มาเสียฟรีคิกให้กับเยอรมัน ตรงริมเส้นฝั่งขวา เมซุต โอซิล รับอาสาบรรจงเปิดมาที่เสาสอง ถึง โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ได้โขกเต็มๆคนเดียว แต่ไปตรงตัวมาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ทุบออกไปได้หวุดหวิด
และจากนั้นเพียงนาทีเดียว พลพรรค อินทรีเหล็ก ก็ขยับหนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ คนเดิม แทงทะลุช่องอีกแล้ว ให้มาริโอ โกเมซ ดาวซัลโวจากบาเยิร์น มิวนิค หลุดไปซัดด้วยขวาเต็มๆ ในกรอบเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งผ่าน สเตเคเลนเบิร์ก เสียบหน้าต่างเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม
และช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เยอรมนี เกือบนำห่างออกไปอีก เมื่อได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เปิดไปหน้าประตู บอลลึกไปเกือบเสียบใต้คานอยู่แล้ว ดีที่สเตเคเลนเบิร์ก ถอยมาปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบ 45 นาทีแรก "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี นำ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ 2-0
เปิดฉากครึ่งหลัง เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือฮอลแลนด์ ทำการแก้เกมทันที 2 คนรวด เอา มาร์ค ฟาน บอมเมล กัปตันทีม และ อิบราฮิม อเฟลลาย ออก แล้วส่งตัวรุก ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กับ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ลงสนามแทน
แต่เกมของทีมอัศวินสีส้ม ยังไม่ดีขึ้นเลย และเกือบเสียประตูที่สามอีก ในนาทีที่ 52 เมื่อแมตส์ ฮัมเมิ่ลส์ เติมขึ้นมายิง สเตเคเลนเบิร์ก ทุบได้จังหวะแรก ก่อนมาเข้าทาง กองหลังดอร์ทมุนด์ ได้ซัดอีกครั้ง คราวนี้สเตเคเลนเบิร์ก ต้องออกแรงพุ่งปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
จากนั้นอีก 6 นาทีต่อมา ฮอลแลนด์ ได้เสียวบ้าง เป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ได้กดด้วยซ้ายเต็มขอนอกกรอบ แต่มานูเอล นอยเออร์ โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งปัดปลายมือได้ฉิวเฉียด
เกมของขุนพลดัตช์ เริ่มดีขึ้น นาทีที่ 62 เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ได้บอลทางซ้าย ก่อนจะลากตัดเข้าใน แล้วปั่นโค้งด้วยขวา ระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
ทีมเยอรมัน เริ่มถอยต่ำ และเป็นโอกาสของ ฮอลแลนด์ อีกครั้ง นาทีที่ 69 คราวนี้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เปิดจากซ้ายให้ อาร์เยน ร็อบเบน ได้พักบอลแล้วตวัดยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่โดนไม่เต็มบอลวิ่งผ่านหน้าประตูออกหลังไป
นาทีที่ 72 เยอรมัน มาเปลี่ยนตัวคนแรก เอามาริโอ โกเมซ ที่เหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้ออก แล้วส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ ลงมาล่าตาข่ายแทน
แต่หลังจากนั้นเพียงนาทีเดียว แฟนๆ อัศวินสีส้ม ก็ได้เฮกันลั่นสนามบ้าง เมื่อทำประตูไล่มาเป็น 2-1 เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ส่งให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้พลิกไปยิงบริเวณหัวกระโหลกด้วยขวา บอลพุ่งลอดขา โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ผ่านมือ นอยเออร์ ตุงตาข่าย
นาทีที่ 80 ไนเจล เดอ ยองก์ กองกลางตัวตัดเกมของฮอลแลนด์ ก็มาโดนใบเหลืองแรกของเกม หลังไปอัดใส่ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมอินทรีเหล็ก
นาทีต่อมาทีม อินทรีเหล็ก เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง โทนี่ โครส มิดฟิลด์สโมสร บาเยิร์น มิวนิค ลงมาแทน เมซุต โอซิล
นาทีที่ 83 ฮอลแลนด์ แก้เกมเป็นคนสุดท้าย ถอด อาร์เยน ร็อบเบน ออก แล้วให้ เดิร์ค เค้าท์ อดีตนักเตะลิเวอร์พูล ลงมาเล่นริมเส้นแทน
จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา เยโรม บัวเต็ง แบ็กขวาเยอรมัน มาเสียใบเหลืองอีกคน หลังไปถ่วงเวลา และทำให้เจ้าตัว
โดนโทษแบน อดลงสนามในเกมพบกับเดนมาร์กในนัดถัดไป ท้ายเกม นาที 89 มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก นายทวารดัตช์เกือบทำพลาดเมื่อเตะบอลไปติด มิโรสลาฟ โคลเซ่ ที่ตามมาแท็คเกิ้ลบอลแต่ดีที่บอลไม่ตรงกรอบ
นาทีสุดท้าย เยโทร วิลเลมส์ มาโดนเหลือง หลังไปตัดเกมใส่ โธมัส มุลเลอร์
จากนั้น เยอรมัน มาใช้เวลาเปลี่ยนคนสุดท้าย ถอด โธมัส มุลเลอร์ ไปพัก แล้วส่ง ลาร์ส เบนเดอร์ มิดฟิลด์เลเวอร์คูเซ่น มาอัดในแดนกลาง
ช่วงเวลาที่เหลือทีมอินทรีเหล็กเน้นรับเป็นหลัก แต่ฮอลแลนด์ ก็ไม่มีโอกาสเข้าไปทำประตูเลย จบ 90 นาที เยอรมัน เอาชนะ ฮอลแลนด์ ไปได้ 2-1 และถึงแม้เยอรมัน จะชนะ 2 นัดรวดมี 6 คะแนน นำจ่าฝูงตอนนี้ ขณะที่ ฮอลแลนด์ แพ้รวดทั้ง 2 เกม ไม่มีแต้มเลย แต่ทั้งคู่ยังต้องไปลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายต่อไป