ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ ตะบันประตูมันส์หยดช่วย "โปลแลนด์" เจ้าภาพร่วม ไล่ตามตีเสมอ "หมีขาว" รัสเซีย 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยทั้งคู่ยังต้องไปลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายต่อไป ในศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่ม เอ. เมื่อคืนวันอังคารที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่ม เอ

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2555

โปแลนด์ 1        -       1 รัสเซีย

สนาม : เนชั่นแน่ล สเตเดี้ยม, วอร์ซอว์, โปแลนด์    ผู้ชม: 57,000 คน  

        โปแลนด์ เจ้าภาพ เปิดสนามเนชั่นแนล สเตเดี้ยมของตัวเอง ทำศึกยูโร 2012 นัดที่สองพบกับ "หมีขาว" รัสเซีย โดยเกมนี้เจ้าถิ่น จะไม่มีวอจเซียค เซสนี่ นายด่านอาร์เซน่อล ที่โดนแบน แต่ตัวแทนที่ลงสนามมาอย่าง เพอร์เซมีสลาฟ ไททัน นั้นฟอร์มนัดก่อนก็ถือว่ายอดเยี่ยม ส่วนในแนวรุก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก่งของทีมยังลงปักหลักเช่นเดิม

        ขณะที่ รัสเซีย มาในชุดเดิม นำทัพโดย อังเดร อาร์ชาวิน กัปตันทีม ทำเกมรุกรวมกับ อลัน ซาโกเยฟ ที่เหมาคนเดียวสองประตูในเกมก่อน และอเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ขณะที่ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ที่ลงมาสำรองและเล่นได้ดี ยังคงต้องรอโอกาสข้างสนามต่อไป

เริ่มครึ่งแรกโปแลนด์เป็นฝ่ายเขี่ยก่อน นาทีที่ 6 เจ้าภาพ ก็มาได้ลุ้นทันที จากจังหวะฟรีคิกทางขวา ลูโดวิช โอบราเนี้ยค เปิดไปหน้าประตู โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พยายามโหม่ง แต่บอลไปโดนขากลายเป็นดี บอลตกพื้น แต่เป็น วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ นายด่านหมีขาวล้มเซฟด้วยเท้าไว้ได้ ก่อนกองหลังจะเคลียร์ทิ้งหวุดหวิด

     จากนั้นอีก 5 นาทีต่อมา ยังคงเป็นโปแลนด์ ที่ได้โอกาสอีกครั้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คนเดิม พักบอลด้วยอกแล้วเอี้ยวตัววอลเลย์แบบไม่จับด้วยซ้าย นอกกรอบเขตโทษ บอลลอยเหินข้ามคานออกหลังไปแบบได้ลุ้น

     ถึงนาทีที่ 18 โปแลนด์ ที่ทำเกมได้ดีกว่า น่าได้ประตูออกนำแบบสุดๆ เมื่อออยเก้น โพลันสกี้ มิดฟิลด์จากสโมสรไมนซ์ ได้หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ เข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อนนิดเดียว

     รัสเซีย มาได้โอกาสแรกบ้าง ในนาทีที่ 25 จากการทำเกมขึ้นมาทางซ้ายของ อังเดร อาร์ชาวิน ก่อนตักเข้าไปในกรอบเขตโทษ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ได้โหม่ง หลุดออกหลังไป

     ทีมหมีขาวเริ่มทำเกมได้ดีขึ้น อีก 3 นาทีต่อมา จากจังหวะสวนกลับ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ควบไปเอาบอลทางฝั่งซ้าย แล้วลากตัดเขาไปยิงด้วยขวา นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

     และผ่านมาถึงนาทีที่ 37 เป็นรัสเซีย ที่ออกนำไปก่อนจนได้ 1-0 เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกเยื้องมาทางซ้าย อังเดร อาร์ชาวิน รับอาสาเปิดด้วยขวามาหน้าประตู อลัน ซาโกเยฟ วิ่งมาจุดนัดพบสบัดศีรษะโขกเขาเสาสองไม่เหลือ และเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้

     หลังเสียประตู โปแลนด์ตอบโต้ทันควัน อีก 2 นาทีต่อมา ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ กัปตันทีม ซัดด้วยขวาเต็มขอนอกกรอบ ร้อนถึง วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ ต้องผวาทุบออกไป

     ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าภาพ พยายามโหมบุก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และทดเวลาบาดเจ็บออกไป 2 นาที ก็ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบครึ่งแรก โปแลนด์ ตามหลัง รัสเซีย 0-1

     เปิดฉากครึ่งหลังโปแลนด์ เดินหน้าลุยทันที แค่สองนาทีเท่านั้น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้จังหวะหลุดเดี่ยวไปแตะหลบ มาลาเฟเยฟได้แล้ว แต่เหลือมุมน้อยมาก ยิงไปก็โดนนายทวารหมีขาวบล็อคออกหลังไปได้

     และหลังจากนั้นก็ได้จังหวะเตะมุมถึง 2 ครั้งติด แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพอ ดาเมียง แปร์กกิส กองหลังเติมขึ้นมาโขกข้ามคานออกไป

     ความพยายามของ โปแลนด์ ก็เป็นผลจนได้ ตามตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 จากความสามารถเฉพาะตัวของ ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ กัปตันทีม ลากเข้ามาทางขวา ก่อนตัดเข้าในซัดด้วยซ้าย บริเวณเส้นกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งผ่านมือ มาลาเฟเยฟ เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

      นาทีที่ 60 ผู้ตัดสินชาวเยอรมันต้องแจกใบเหลืองจนได้ เมื่อ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไปทำฟาวด์ อิกอร์ เดนิซอฟ ก่อนที่ เดนิซอฟ ไม่พอใจลุกขึ้นมาเอาเรื่อง เลยโดนใบเหลืองไปทั้งคู่

     นาทีที่ 67 ทีมหมีขาวเกือบออกนำอีกครั้ง เมื่ออเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ แทงให้ อลัน ซาโกเยฟ ได้ยิงในเขตโทษ แต่เป็นเพอร์เซมีสลาฟ ไททัน ล้มรับไว้ได้เหนียวหนึบ

     นาทีต่อมา โปแลนด์ ก็โต้มาทันควัน ออยเก้น โพลันสกี้ ได้ซัดมุมแคบริมเส้นเขตโทษฝั่งขวา แต่ก็โดน วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ บล็อคไว้ได้

     รัสเซีย เริ่มขยับเปลี่ยนตัวก่อน นาทีที่ 70 ถอด อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ออก แล้วส่ง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ลงมาล่าตาข่ายแทน

     จากนั้นไม่นาน อีก 3 นาทีต่อมา เจ้าภาพ แก้เกมบ้างส่ง เอเดรียน เมียร์เซเยฟสกี้ กองกลางสโมสรแทร็บซอนสเปอร์ ลงมาแทน ดาริอุสซ์ ดุ๊ดก้า

     เกมเริ่มใส่กันดุขึ้น นาทีที่ 75 อลัน ซาโกเยฟ รับใบเหลืองอีกราย หลังไปทำฟาวด์ใส่ เซบาสเตียน โบนิช และเป็นใบที่สองของทีมหมีขาว

     จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา ออยเก้น โพลันสกี้ ของเจ้าถิ่นก็มาโดนเหลืองบ้าง เมื่อไปทำฟาวล์ใส่ ยูริ ชีร์คอฟ 

     นาทีที่ 80 รัสเซีย เปลี่ยนคนที่สอง ถอน อลัน ซาโกเยฟ คนทำประตูออก แล้วส่ง มารัต อิซไมลอฟ ลงสนามแทน

     โปแลนด์ มาได้ลุ้นอีกครั้ง ในนาทีที่ 81 เมื่อ ลูโดวิช โอบราเนี้ยค ได้หลุดไปซัดเต็มๆ แต่ไม่ผ่านมือ วาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ

     นาทีที่ 84 โปแลนด์ ต้องถอด ออยเก้น โพลันสกี้ ที่มีอาการบาดเจ็บออก แล้วให้ อดัม มาตุสซ์คซิค ลงมาเล่นแทน

     นาทีสุดท้ายเจ้าภาพ แก้เกมคนสุดท้าย เติมกองหน้า พาเวล โบรเซค ลงมาแทน ลูโดวิช โอบราเนี้ยค

     แต่จากนั้นก็ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม โปแลนด์ เสมอ รัสเซีย 1-1 แบ่งแต้มกันไป โดยทีมหมีขาวมี 4 คะแนน ขณะที่เจ้าภาพเสมอเป็นเกมที่สองติดต่อกันมี 2 คะแนน โดยทั้งคู่ยังต้องไปลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายต่อไป

11ผู้เล่นที่ลงสนาม
โปแลนด์ (4-2-3-1) : เพอร์เซมีสลาฟ ไททัน ; เซบาสเตียน โบนิช, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, ดาเมียง แปร์กกิส, ลูคัสซ์ พิซเซ็ค ; ดาริอุสซ์ ดุ๊ดก้า, ออยเก้น โพลันสกี้ ; ลูโดวิช โอบราเนี้ยค, ราฟาล มูราฟสกี้, ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้(กัปตันทีม) ; โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 
โค้ช : ฟรานซิสเซ็ค สมูด้า

รัสเซีย (4-3-3) : วยาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ ; อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, ยูริ ชีร์คอฟ ; โรมัน ชิโรคอฟ, อิกอร์ เดนิซอฟ, คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ ; อลัน ซาโกเยฟ , อังเดร อาร์ชาวิน(กัปตันทีม) , อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ
โค้ช : ดิ๊ก อั๊ดโวคาท

ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สต้าร์ค (เยอรมัน)

แมน ออฟ เดอะ แมตซ์

ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (โปแลนด์)

     "คูบา" บลาสซีคอฟสกี้ ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมในเกมนี้ คุมเกมแดนกลางได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ลากบอลมาตะบันประตูตีเสมอให้กับโปแลนด์อย่างสุดสวยด้วย ซึ่งประตูนั้นทำให้เกมของโปลสก้ากลับมายึดแท็คติกเดิมๆได้ และยังรักษาโอกาสเข้ารอบเอาไว้

สถิติหลังเกม
โปแลนด์                                                       รัสเซีย
15(6)           ยิงทั้งหมด(เข้ากรอบ)              11(2) 
   1                             ฟาวล์                              14 
   4                            เตะมุม                              6 
   2                            ล้ำหน้า                             2 
 40%         เปอร์เซนต์การครองบอล          60% 
   2                          ใบเหลือง                           2 
   0                           ใบแดง                              0 
   1                          ช็อตเซฟ                           5