"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มเก่งหลังเปิดแอนฟิลด์ ไล่ถล่ม ไบรท์ตัน ไปแบบบ้าคลั่ง 6-1 โดยสามตุงจากหกเม็ดของเจ้าถิ่นเป็นฝั่งทีมเยือนที่ทำเข้าประตูตัวเอง ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ต่อไป ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555
ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) 6 - 1 ไบรท์ตัน (แชมเปี้ยนชิพ)
สนาม : แอนฟิลด์
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ทำศึกเอฟเอคัพ ต้อนรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน ทีมจากลีกแชมเปี้ยนชิพ โดยเกมนี้ เจ้าถิ่นเน้นส่งชุดใหญ่ครบครัน นำทัพโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ส่วนแนวกรุกใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ชาร์ลี อดัม ,สจร๊วร์ต ดาวนิ่ง ประสานงานสนับสนุน หลุยส์ ซัวเรซ และ แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ลงตัวจริงล่าตาข่าย
เริ่มเกมมาเพียง4นาที เป็นฝ่าย ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อน จากการพลิกยิงในกรอบเขตโทษของ สจร๊วร์ต ดาวนิ่ง บอลแฉลบกองหลัง ไบรท์ตัน เกือบจะฮุคเสียบคานแต่ ปีเตอร์ เบรโซแวน บินปัดไว้ได้
อย่างไรก็ตามจากจังหวะต่อเนื่อง ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุมโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดทางฝั่งซ้ายของสนาม มาที่จุดนัดพบตรงเสาแรก มาร์ติน สเคอร์เทล วิ่งโฉบมาโหม่งเป็นประตูให้ทีมหงส์แดง ขึ้นนำแต่ไก่โห่ 1-0
นาทีที่ 15 ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะ 25 หลา สจร๊วร์ต ดาวนิ่ง เล่นเร็วไหลบอลให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ยิงเต็มข้อแต่บอลไม่เข้ากรอบ
นาทีที่ 17 ไบรท์ตัน ได้ฟรีคิกระยะ 28 หลา คาเซนก้า ลัวลัว วิ่งเข้ายิงเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสุดสวย ให้ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1
หลังเสียประตู เจ้าถิ่นโหมเกมบุกอย่างหนัก แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่สามารถหาทางเข้าไปจบสกอร์ได้
นาทีที่ 25 โฆเซ่ เอ็นริเก้ ตัดบอลได้กลางสนามก่อนลากหลบแนวรับ ไบรท์ตัน เข้าไปสับไกยิงด้วยขวา แต่บอลถากเสาออกไป
นาทีที่ 27 หลุยส์ ซัวเรซ ได้โอกาสเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโษ ก่อนดีดด้วยขวาบอลผ่านตัว ปีเตอร์ เบรโซแวน ไปแล้ว แต่ อินยิโก้ กัลเดรอน กองหลังยืนถูกที่สกัดทิ้งออกหลังไปได้
นาทีที่ 30 สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ได้โขกเต็มๆ แต่บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 41 ไบรท์ตัน ได้โต้กลับบ้าง คาเซนก้า ลัวลัว ลากผ่านกองหลังลิเวอร์พูลก่อนล็อกเข้ากรอบเขตโทษ ได้ยิงแบบดีดๆ แต่บอลเข้าข้างตาข่าย
นาทีที่ 44 จากลูกเตะมุมของลิเวอร์พูล ปีเตอร์ เบรโซแวน นายทวารทีมเยือนชกบอลออกมาไม่ดี บอลมาเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ ที่ล็อกหลบหนึ่งจังหวะก่อนยิงแต่บอลไปโดนตัวผู้รักษาประตูมาเข้าหัว เกล็น จอห์นสัน ที่โหม่งโล่งๆ แต่แนวรับ ไบรท์ตัน เคลียร์กันไม่ดีไปโดนตัว เลียม บริดคัตต์ เข้าประตูตัวเอง ลิเวอร์พูล ออกนำอีกครั้ง 2-1
จบครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายนำอยู่ 2-1
เริ่มเกมในครึ่งหลังเป็นทีมเยือนที่เปลี่ยนตัวก่อนโดยส่ง เคร็ก นูน ลงมาเล่นแทน วิล บัคลี่ย์
นาทีที่ 52 อลัน นาวาร์โร่ รับใบเหลืองคนแรกของเกม หลังไปเตะ สตีเว่น เจอร์ราร์ด
นาทีที่ 52 ปีเตอร์ เบรโซแวน นายทวารทีมเยือน ออกมาเตะบอลพลาด หลุยส์ ซัวเรซ จับบอลหนึ่งจังหวะแต่ดันไม่ยิง กองหลัง ไบรท์ตัน เคลียร์อกมาได้ทัน
นาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ สจร๊วร์ต ดาวนิ่ง เปิดจากริมเส้นเข้าไปในกรอบเขตโษ แอนดี้ แคร์โรลล์ วิ่งเข้ายิงด้วยซ้าย ปีเตอร์ เบรโซแวน ล้มตัวปัดไม่ทัน บอลตุงตาข่าย ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-1
นาทีที่ 69 ไบรท์ตัน เปลี่ยนตัวหวังแก้เกมโดยส่ง เคร็ก แม็คเกล-สมิธ และ บิเชนเต้ โรดริเกซ ลงเล่นแทน แซม โว้คส์ กับ อดัม เอลอับด์
นาทีที่ 71 สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงแต่บอลไปติดเซฟ ปีเตอร์ เบรโซแวน ออกข้าง เจอร์ราร์ด ตามไปซ้ำจากมุมแคบ บอลโดน เลียม บริดคัตต์ เข้าประตูไป ให้ ลิเวอร์พูล หนีห่าง 4-1
นาทีที่ 74 สถานการณ์ของทีมเยือนย่ำแย่ไปใหญ่ เมื่อ ลูอิส ดังค์ กองหลังไม่ยอมเคลียร์บอลทิ้ง กลับไปเดาะบอลหน้าประตูตัวเอง แต่บอลปลิ้นเข้าประตูไปอย่างเหลือเชื่อ ลิเวอร์พูล หนีห่างสุดกู่ 5-1
ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวที่เดียวสามตัวรวด โดยถอด สจร๊วร์ต ดาวนิ่ง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ออกและส่ง มักซี่ โรดริเกซ, จอนโจ เชลวี่ และ เดิร์ก เค้าท์ ลงแทน
นาทีที่ 80 ลิเวอร์พูลได้ลูกจุดโทษ แต่ หลุยส์ ซัวเรซ ดันแปไปติดเซฟของ ปีเตอร์ เบรโซแวน อย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 85 ลิเวอร์พูล โต้กลับเร็ว โฆเซ่ เอ็นริเก้ เปิดบอลเข้าไปเสาสองให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ โขกตั้งมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ ได้โขกจ่อๆหลาเดียวไม่เหลือ ลิเวอร์พูล นำไปเป็น 6-1
จบเกม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน ไปได้ 6-1 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ สโต๊ค ซิตี้
11นักเตะของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล:โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน,เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้,สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ชาร์ลี อดัม ,สจร๊วร์ต ดาวนิ่ง,หลุยส์ ซัวเรซ,แอนดี้ แคร์โรลล์
สำรอง:อเล็กซานเดอร์ โดนี่,มักซี่ โรดริเกซ,เซบาสเตียน โกอาเตส,เดิร์ก เค้าท์,เจย์ สเพียร์ริ่ง,จอนโจ เชลวี่,มาร์ติน เคลลี่
ไบรท์ตัน:ปีเตอร์ เบรโซแวน,อินยิโก้ กัลเดรอน,กอร์ดอน เกรียร์,ลูอิส ดังค์,อดัม เอลอับด์,วิล บัคลี่ย์,เลียม บริดคัตต์, อลัน นาวาร์โร่, คาเซนก้า ลัวลัว,แซม โว้คส์,แอชลี่ย์ บาร์นส์
สำรอง:แคสเปอร์ อันเคอร์เกร็น,เคร็ก นูน,เคร็ก แม็คเกล-สมิธ,โรดริเกซ บิเชนเต้,ไรอัน ฮาลี่ย์,โรแมง วินเชลอต,ทอร์บยอร์น แอคเดสแตง
ผู้ตัดสิน:อังเดร มาร์ริเนอร์
ข่าวฮอต
อันดับ | ทีม | W/D/L | แต้ม |
---|
เมือง&สนามบอล
ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา
ปี | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับ 3 |
---|---|---|---|
2008 | สเปน | เยอรมัน | รัสเซีย / ตุรกี |
2004 | กรีซ | โปรตุเกส | เนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก |
2000 | ฝรั่งเศส | อิตาลี | เนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส |
1996 | เยอรมัน | สาธารณรัฐเช็ก | ฝรั่งเศส / อังกฤษ |
1992 | เดนมาร์ก | เยอรมัน | เนเธอร์แลนด์ / สวีเดน |
1988 | เนเธอร์แลนด์ | สหภาพโซเวียต | อิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก |
1984 | ฝรั่งเศส | สเปน | เดนมาร์ก / โปรตุเกส |
1980 | เเยอรมนีตะวันตก | เบลเยียม | เชโกสโลวะเกีย |
1976 | เชโกสโลวะเกีย | เเยอรมนีตะวันตก | เนเธอร์แลนด์ |
1972 | เเยอรมนีตะวันตก | สหภาพโซเวียต | เบลเยียม |
1968 | อิตาลี | ยูโกสลาเวีย | อังกฤษ |
1964 | สเปน | สหภาพโซเวียต | ฮังการี |
1960 | สหภาพโซเวียต | ยูโกสลาเวีย | เชโกสโลวะเกีย |