หน้าแรก - ข่าว - เอวีบีโดนโห่!สิงห์ไล่เจ๊าเดอะบลูส์1-1ต้องรีเพลย์
เอวีบีโดนโห่!สิงห์ไล่เจ๊าเดอะบลูส์1-1ต้องรีเพลย์
Posted:18/02/2012

    "สิงห์บลูส์" เชลซี อาการยังไม่ดี เปิดบ้านไล่เจ๊า "เดอะบลูส์" เบอร์มิงแฮม ทีมจากลีกแชมเปี้ยนชิพ ท่ามกลางเสียงโห่จากแพนเจ้าถิ่น ไป 1-1 ต้องไปเตะรีเพลย์กันต่อไปที่บ้าน เบอร์มิงแฮม ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

 

              ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5

             วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555

        เชลซี (พรีเมียร์ลีก)  1-1   เบอร์มิงแฮม (แชมเปี้ยนชิพ)


สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


   "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 ต้อนรับการมาเยือนของ "เดอะบลูส์" เบอร์มิงแฮม ทีมจากลีกแชมเปี้ยนชิพ โดยเจ้าถิ่นส่งสามประสานตัวหลักอย่าง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์,เฟร์นันโด ตอร์เรส และ ฆวน มาตา ล่าตาข่าย


   เริ่มเกมมาเพียง11นาที ทีมเยือน ก็เปิดเกมไม่สวย เนื่องจาก สตีเฟ่น คาร์ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง โจนาธาน สเป็คเตอร์ ลงมาแทน ตั้งแต่ต้นเกม


  แต่แล้วนาทีที่20กลายเป็นทีมเยือนได้เฮกันลั่นสนามก่อน เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของสนาม จอร์ดอน มัตช์ เปิดมาที่เสาแรก บอลคลุกคลิกอยู่หน้าประตู บวกกับกองหลัง เชลซี เคลียร์กันไม่ดี จนบอลทะลักมาเข้าทางปืนของ เดวิด เมอร์ฟี่ กดด้วยซ้ายเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่ายให้ เบอร์มิงแฮม บุกมานำ เชลซี 1-0


   อย่างไรก็ตาม นาทีต่อมา แฟนสิงห์บลูกก็ได้ดีใจบ้าง เมื่อ เวด เอลเลียตต์ ไปเตะฟาวส์ รามิเรส ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ชี้เป็นลูกจุดโทษทันที


     แต่แล้วแฟนเจ้าถิ่น ก็ต้องใจสลาย เมื่อ ฆวน มาตา ที่รับหน้าที่สั้งหารนั้น ยิงด้วยเท้าซ้ายไปทางมุมขวาของผู้รักษาประตู แต่ถูก คอลิน ดอยล์ ประตูทีมเยือนเดาทางถูก พุ่งปัดบอลไปชนเสา ปฎิเสธการตีเสมอของ เชลซี อย่างงดงาม


  อย่างไรก็ตามหลังเสียประตู เชลซี โหมเปิดเกมบุกมากขึ้น และมีโอกาสได้ลุ้น เมื่อ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดยัดเข้ากลางให้ ตอร์เรส เข้าฮอต ที่กองหลัง เบอร์มิงแฮม ยังตามมาสกัดได้อย่างหวุดหวิด


     เกมเข้าสู่นาทีที่33 กลายเป็นทีมเจ้าถิ่นเสียใบเหลืองเป็นใบแรก เมื่อ จอร์ดอน มัตช์ ไปเสียบฟาวส์ใส่ ดาวิด ลุยซ์ อย่างหนัก ก่อน ดาวิด ลุยซ์ จะลุกขึ้นมายิงฟริคิกเอง บอลพุ่งเกือบเสียบคานแต่ คอลิน ดอยล์ ยังบินปัดเซฟประตูให้เบอร์มิงแฮมไว้ได้


  5นาทีต่อมา เชลซี มีโอกาสได้ลุ้นประตู เมื่อ เฟร์นันโด ตอร์เรส โหม่งตั้งบอลให้กับ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่วิ่งเติมขึ้นมา พักบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงแบบลูกใบไม้ร่วงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลข้ามคานอย่างเฉียดฉิว


  ช่วงท้ายครึ่งแรก เชลซี พยายาม เปิดเกมกดดัน เบอร์มิงแฮม แต่ก็ไม่สามารถเจ้าะเข้าไปทำประตูได้ หมดเวลาครึ่งแรก เบอร์มิงแฮม จึงบุกมานำ เชลซี ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ อยู่ 1-0


  เริ่มครึ่งหลังมา เชลซี ทำการแก้เกมทันที ด้วยการส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ลงมาแทน เฟร์นันโด ตอร์เรส


  แม้จะเปลี่ยนตัวแก้เกมแต่เกมของ เชลซี ก็ยังไม่ดีขึ้น แถมยังต้องเสียใบเหลืองเป็นใบแรก ในนาทีที่55เมื่อ แกรี่ เคฮิลล์ ไปเสียบฟาวส์ใส่ อดัม รูนี่ย์ กองหน้าเบอร์มิงแฮม


  นาทีต่อมา เชลซี ทำการเปลี่ยนตัวเป็นคนที่สอง ด้วยการส่ง ซาโลมง กาลู ลงมาแทน โอบี มิเกล


  นาทีที่59 เชลซี มีโอกาสได้จบสกอร์อีกครั้งเมื่อ ดาวิด ลุยซ์ วางบอลยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ มาตา เอาบอลลงก่อนยิงด้วยเท้าขวา แต่บอลไม่เข้ากรอบ

  อย่างไรก็ตาม นาทีที่62 แฟนๆเชลซี ก็ได้กรี๊ดกันลั่นทุ่ง เมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาของสนาม ก่อนบรรจงเปิดด้วยเท้าขวามาที่กลางประตูให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่อยู่คนเดียวไร้คนประกบ กระโดดขึ้นโขกเช็ดไปทางเสาสอง บอลเบียดเช็ดเสา สุดปัญญาที่ คอลิน ดอยล์ จะเซฟไว้ได้ เชลซี ตีเสมอ 1-1

  นาทีที่71 เบอร์มิงแฮม ทำการเปลี่ยนตัวบ้างด้วยการส่ง เจค เจอร์วิส ลงมาแทน อดัม รูนี่ย์ ก่อนเชลซี จะมีโอกาสได้จบสกอร์ เมื่อได้ลูกเตะมุม กองหลัง เบอร์มิงแฮม เคลียร์ไม่ขาด บอลตกมาเข้าทางปืนของ ราอูล เมยเลเรส กดเต็มข้อด้วยขวา บอลแฉลบเปลี่ยนทางข้ามคานแบบมีลุ้น


   6นาทีต่อมา เบอร์มิงแฮม มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกระยะ30หลา จอร์ดอน มัตช์ กดบอลเลียดด้วยเท้าขวา บอลพุ่งผ่านกำแพงไปแล้ว แต่ ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวเซฟไว้ได้

  ก่อนหมดเวลา7นาที ทั้งสองทีมทำการเปลี่ยนเป็นคนสุดท้าย โดย เบอร์มิงแฮม ส่ง คริส เบิร์ก ลงมาแทน เวด เอลเลียตต์ ขณะที่ เชลซี ส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงมาแทน ฆวน มาตา


  นาทีสุดท้าย เชลซี มีโอกาสได้ยิงฟรีคิกระยะ20หลากลางประตู แฟร้งค์ แลมพาร์ด วิ่งมากดด้วยเท้าขวา แต่บอลติดกำแพงเต็มๆ ช่วงเวลาที่เหลือทำประตูกันไม่ได้ หมดเวลา เชลซี จึงทำได้แค่เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 ต้องไปรีเพลย์กันที่บ้าน
เบอร์มิงแฮม ต่อไป

11นักเตะของทั้งสองทีม

เชลซี(4-3-3):ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์,ไรอัน เบอร์ทรานด์,ราอูล เมยเลเรส, โอบี มิเกล, รามิเรส,ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์,เฟร์นันโด ตอร์เรส,ฆวน มาตา

สำรอง : เฮนริเก้ ฮิลาริโอ,ไมเคิ่ล เอสเซียง,แฟร้งค์ แลมพาร์ด,โชเซ่ โบซิงวา,ฟลอรองต์ มาลูด้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา,ซาโลมง กาลู

เบอร์มิงแฮม(4-5-1) :คอลิน ดอยล์, สตีเฟ่น คาร์, ปาโบล อิบาเนซ, เคอร์ติส เดวิส, เดวิด เมอร์ฟี่,เนธาน เร้ดมอนด์,คีธ ฟาเฮย์ , จอร์ดอน มัตช์, เวด เอลเลียตต์, มอร์กาโร่ โกมิส - อดัม รูนี่ย์

สำรอง:แจ๊ค บัตแลนด์,สตีเว่น คาล์ดเวลล์,โจนาธาน สเป็คเตอร์,คริส เบิร์ก,อัควาซี่ อาซานเต้,คัลลัม ไรลี่,เจค เจอร์วิส


ผู้ตัดสิน:มาร์ติน แอตกินสัน

ข่าวฮอต

ตารางคะแนน
    อันดับ ทีม W/D/L แต้ม

    เมือง&สนามบอล

    ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา

    ปี ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับ 3
    2008สเปนเยอรมันรัสเซีย / ตุรกี
    2004กรีซโปรตุเกสเนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก
    2000ฝรั่งเศสอิตาลีเนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส
    1996เยอรมันสาธารณรัฐเช็กฝรั่งเศส / อังกฤษ
    1992เดนมาร์กเยอรมันเนเธอร์แลนด์ / สวีเดน
    1988เนเธอร์แลนด์สหภาพโซเวียตอิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก
    1984ฝรั่งเศสสเปนเดนมาร์ก / โปรตุเกส
    1980เเยอรมนีตะวันตกเบลเยียมเชโกสโลวะเกีย
    1976เชโกสโลวะเกียเเยอรมนีตะวันตกเนเธอร์แลนด์
    1972เเยอรมนีตะวันตกสหภาพโซเวียตเบลเยียม
    1968อิตาลียูโกสลาเวียอังกฤษ
    1964สเปนสหภาพโซเวียตฮังการี
    1960สหภาพโซเวียตยูโกสลาเวียเชโกสโลวะเกีย