กลุ่มซีไม่ธรรมดาและเป็นกลุ่มที่แทบจะเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ได้ง่ายที่สุด เนื่องเพราะว่าทีมแชมป์โลกและแชมป์เก่ารายการนี้ "กระทิงดุ" สเปน ของบิเซนเต เดล บอสเก ยังคงมีทีมที่แข็งแกร่งแน่นปึ้ก จากการคว้าชัยชนะทุกนัดในรอบคัดเลือก ส่วน "ยักษ์เขียว" สาธารณรัฐไอร์แลนด์ กับทีมตราหมากรุก "โครเอเชีย" ของสลาเวน บิลิช การผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือเป็นโบนัสของพวกเขาแล้ว และทั้งคู่ ก็คงจบเส้นทางเพียงแค่รอบแรกอย่างแน่นอนบทสรุปของกลุ่มซี สเปน จะเป็นแชมป์กลุ่ม โดย อิตาลี ตามเข้ารอบเป็นที่ 2
เต็งหนึ่งของทัวนาเมนต์ยูโร 2012 คงต้องยกให้ ทีม กระทิงดุ สเปน ด้วยในฐานะแชมป์เก่าและแชมป์ฟุตบอลโลกทีผ่านมาเป็นเครื่องการันตีถึงความ เป็นสุดยอดทีมอันดับหนึ่งของโลกในยุคปัจจุบันนี้โดยในทีมชาติสเปนชุดนี้ที่ มีการคาดหมายกันไว้นั้นอาจจะเป็นชุดที่ได้แชมป์โลกซะเป็นส่วนใหญ่และเป็นนัก เตะของทีมบาร์เซโลน่าและรีลมาดริดซะเป็นส่วนใหญ่และประกอบกับนักเตะที่ค้า แข้งนอกเหนือจากในประเทศสเปน อาทิเช่น ดาบิลซิลบา เฟอร์นันโดตอร์เรส เป็นต้น และยังมีดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเข้ามาเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่ง...
อดีตแชมป์โลกและแชมป์ยูโรซึ่งผลงานของทีมหลังจากได้แชมป์โลกที่ผ่าน มาประสบกับความล้มเหลวมาโดยตลอดจนเป็นเหตุที่ต้องเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ ภายในทีมชาติภายใต้การคุมบังเหียนของ เซซาเร่ ปรันเดลลี่ ที่ยึดแกนหลักไว้เพียงไม่กี่คน อาทิ จานลุยจิ บุฟฟ่อน อันเดรีย ปิร์โล เป็นต้น และนำนักเตะหน้าใหม่ๆที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายในสโมสรมาเข้ากันได้ เป็นอย่างดีจนทำให้อิตาลีมีผลงานในการผ่านรอบแบ่งกลุ่มด้วยการ ชนะ 10 เสมอ 2 ไม่แพ้แก่ทีมในกลุ่มเลยแต่ที่สำคัญคือเสียประตูเพียง 2 ประตูเท่านั้นซึ่งน้อยที่สุดในบรรดาทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในยู...
นับตั้งแต่หมดยุคของสองพี่น้อง โควัช (โรเบิร์ต กับ นิโก้) โครเอเชีย เจอปัญหาในแนวรับมาโดยตลอด เนื่องจากตัวความหวังใหม่อย่าง โยซิป ซิมูนิช กำลังอยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่ ภาระหนักจึงไปตกอยู่ที่แดนกลาง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ลูก้า โมดริช ต้องทำงานหนักแค่ไหน เพราะกวาดสายตาไปมองตัวช่วยแล้วนับว่ามีน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็น นิโก้ ครานชาร์ หรือ โทมิสลาฟ ดูโมวิช ซึ่งทั้งคู่ชั้นเชิงยังห่างกับ โมดริช มากนัก โครเอเชียในศึกยูโร 2012 รอบแรกต้องร่วมกลุ่มกับทีมมหาหินอย่าง สเปน...
ฟุตบอลทีมชาติไอร์แลนด์ เป็นฟุตบอลทีมชาติจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลแห่งไอร์แลนด์ เคยเข้ารอบฟุตบอลโลก 3 ครั้ง และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยูโรอีก 2 ครั้ง (รวมปี 1964) สำหรับศึกยูโร 2012 อร์แลนด์ ถูกจับอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันกับ สเปน, อิตาลี และ โครเอเชีย ในกลุ่มซี ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นงานช้างทีเดียวในการพาทัพ "ยักษ์เขียว" ผ่านเข้าสู่รอบน๊อคเอ๊าท์ แต่หลังจากได้แรงบันดาลใจจากที่เห็น เชลซี เอาชนะ บาเยิร์น ในนัดชิงฯยูซีแอล ตราปัตโตนี่ ยืนยันว่า ไอร์แลนด์ ไม่จำเป็นต้องกลัวใครทั้งนั้น...