คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สวมบทฮีโร่โขกประตูชัย นาทีที่ 79 ช่วย "ฝอยทอง" โปรตุเกส เฉือนเก็บชัยเหนือ สาธารณรัฐเช็ก ไปแบบสุดมันส์ 1-0 ส่งผลให้ โปรตุเกส ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะคู่ระหว่าง สเปน กับ ฝรั่งเศส โดยจะเตะกันที่สนาม ดอนบาส อารีน่า เมืองโดเน็ตส์ค ประเทศยูเครน วันพุธที่ 27 มิถุนายน ในศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รองก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา

　　　ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
　 รอบก่อนรองชนะเลิศ
 　วันพฤหัสบดี ที่ 21 มิถุนายน 2555
　 สาธารณรัฐเช็ก 0        -        1 โปรตุเกส

สนาม : เนชั่นแนล สเตเดี้ยม/โปแลนด์

 
        สาธารณรัฐเช็กของโค้ช มิชาล บิเล็ค สามารถพาทีมล้มเจ้าภาพร่วมโปแลนด์ลงได้ 1-0 ในเกมนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ ทำให้พวกเขาได้ผ่านเข้ารอบมาในฐานะทีมอันดับหนึ่งของกลุ่ม เกมนี้ทีมจะไม่มี โทมัส โรซิคกี้ ที่สภาพร่างกายยังไม่พร้อม ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ยังมีปีเตอร์ เช็กนายทวารจอมหนึบเชลซีลงเฝ้าเสา โดยมีมิลาน บารอส ดาวยิงจอมเก๋าของทีม ลงทำหน้าที่เป็นหัวหอกตัวเป้าตามเดิม
 
        ฝั่งโปรตุเกสของกุนซือเปาโล เบนโต้ ผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ มาได้ในฐานะทีมอันดับสองของกลุ่มบี หลังจากที่เอาชนะฮอลแลนด์มาได้ในเกมนัดสุดท้ายของกลุ่ม 2-1 เกมนี้สภาพทีมฝอยทองจัดว่าดีเยี่ยม เพราะว่าตัวหลักอยู่กันครบหมด แนวรุกนำโดย กัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้, หลุยส์ นานี่ และ เอลแดร์ ปอสติก้า มีเปเป้ คุมแนวรับ และ ราอูล เมยเรเลส คอยขับเคลื่อนในแดนกลาง  

     ผู้ตัดสินเกมนี้เป็นฮาวเวิร์ด เว็บบ์ เป่าเริ่มครึ่งแรก สาธารณรัฐเช็ก เป็นฝ่ายเขี่ยก่อน ผ่านไป 10 นาที ทั้งสองทีมดูเหมือนจะเล่นกันอย่างระมัดระวัง เกมอยู่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่

     นาทีที่ 12 เป็นโปรตุเกส ได้ลุ้นก่อน เมื่อ เจา มูตินโญ่ มิดฟิลด์ตัวกลั่นของปอร์โต้ ได้ลองซัดด้วยขวา ประมาณ 20 หลา แต่ไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก รับสบาย

     จากนั้นอีก 6 นาทีต่อมา เช็ก ก็มาได้โอกาสบ้าง เมื่อวลาดิเมียร์ ดาริด้า เปิดจากขวาไปหน้าประตู มิลาน บารอส โฉบมาแหย่เท้าช้ากว่าบอลไปนิดเดียวเท่านั้น

     นาทีที่ 24 ทีมฝอยทอง ขึ้นเกมมาทางซ้าย ฟาบิโอ โกเอนเตรา พยายามเปิดไปหน้าประตู บอลไปแฉลบขา เซลาสซี่ บอลย้อยจะเข้าประตู ดีที่ปีเตอร์ เช็ก ถอยไปรับทัน

 
     และนาทีต่อมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้หลุดไปอัดด้วยขวาเต็มๆ ในกรอบเขตโทษ ติดเซฟ ปีเตอร์ เช็ก แต่ผู้ตัดสินเปาฟาวล์ โรนัลโด้ ไปก่อนแล้ว จากจังหวะไปกระแทกข้างหลังใส่มิชาล คัดเล็ช ก่อน

     นาทีที่ 26 ก็มีใบเหลืองแรกของเกม เมื่อนานี่ ไปเข้าข้างหลัง ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ ในจังหวะแย้งบอล

     จากนั้นนาทีเดียว โปรตุเกส ก็มาโดนเหลืองที่สองต่อทันที คราวนี้เป็น มิเกล เวโลโซ่ ไปตัดเกมใส่ วลาดิเมียร์ ดาริด้า ในจังหวะจะสวนกลับเร็ว

     เกมของทัพฝอยทอง ดูจะดีกว่าเล็กน้อย นาทีที่ 33 จังหวะที่ เปเป้ เติมเกมขึ้นมา กระดกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ โรนัลโด้ ได้กระโดดตีลังกายิง บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

     2 นาทีต่อมา โปรตุเกส มาได้ฟรีคิกระยะทำการของ โรนัลโด้ ประมาณ 30 หลา เยื้องไปทางขวา เจ้าตัววิ่งมาซัดเต็มข้อ บอลพุ่งผ่านเสาสองออกหลังไปแบบได้ลุ้น

     ถึงนาทีที่ 40 เปาโล เบนโต้ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก หลังจาก เอลแดร์ ปอสติก้า มีอาการบาดเจ็บ ต้องส่ง อูโก้ อัลเมยด้า ดาวยิงเบซิคตัส ลงมาล่าตาข่ายแทน 

     ช่วงทดเจ็บออกไป พลพรรคฝอยทอง น่าขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะวางบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาของ ราอูล เมยเรเลส ให้ โรนัลโด้ เอาบอลลงด้วยอกก่อนจะพลิกเข้าไปยิงด้วยขวาเสาแรก ผ่านปีเตอร์ เช็ก ไปแล้ว แต่บอลพุ่งไปชนโคนเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย

     ก่อนที่ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ จะเป่าจบ 45 นาทีแรก สาธารณรัฐเช็ก ยังเสมอกับ โปรตุเกส อยู่ 0-0

     เปิดฉากครึ่งหลัง ได้นาทีเดียวเท่านั้น ทัพโปรตุเกส ก็โหมบุกทันที ราอูล เมยเรเลส เปิดบอลจากซ้ายให้ อูโก้ อัลเมยด้า ตัวสำรอง ได้ขึ้นโขก บอลข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น

     และนาทีที่ 49 ทีมฝอยทอง น่าขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิก ระยะ 25 หลา โรนัลโด้ วิ่งมากดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งไปชนโคนเสาอีกแล้ว

     โปรตุเกส ทำเกมได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด นาทีที่ 54 บุกมาอีกครั้ง ราอูล เมยเรเลส กระดกให้ โรนัลโด้ พักอกหลุดเข้าไปฮาฟวอลเลย์ด้วยขวา ตรงเส้นเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล

     นาทีที่ 58 นานี่ ได้จังหวะซัดไกลนอกกรอบเขตโทษเต็มๆ แต่เป็น ปีเตอร์ เช็ก ที่พุ่งทุบออกไปได้

     จากนั้นนาทีเดียวแฟนๆ โปรตุเกส ก็ได้เฮกันเก้อ เมื่อ นานี่ เปิดจากขวา ไปให้ อูโก้ อัลเมยด้า ได้พุ่งโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

     นาทีที่ 61 เกมของสาธารณรัฐเช็ก ไม่ค่อยดีขึ้น จึงต้องเปลี่ยนตัวคนแรก ถอด วลาดิเมียร์ ดาริด้า ออก แล้วให้แยน เรเซ็ค ลงมาทำเกมรุกแทน

     ทัพฝอยทองยังเปิดเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 64 คราวนี้เป็น เจา มูตินโญ่ ได้อัดด้วยขวาแบบไม่จับ ระยะประมาณ 20 หลา ปีเตอร์ เช็ก ต้องออกแรงปัดข้ามคานออกไป

     นาทีที่ 74 ราอูล เมยเรเลส ยกบอลให้ นานี่ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ มิชาล คัดเล็ช พุ่งมาบล็อกบอลแฉลบข้ามคานออกไปนิดเดียว

     หลังกดดันอยู่นาน นาทีที่ 79 โปรตุเกส ก็ออกนำจนได้ 1-0 จากจังหวะลากไปเปิดทางขวาของ เจา มูตินโญ่ บอลโค้งมาเข้าหัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โขกกดลงพื้น หมดสิทธิ์ป้องกันของ ปีเตอร์ เช็ก

     ขุนพลฝอยทอง ยังมาเป็นชุด อีก 3 นาทีต่อมา เจา เปเรยร่า แบ็กขวาลุยขึ้นมา ก่อนจะได้ซัดด้วยขวา ในกรอบเขตโทษ แต่คราวนี้ไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก

     นาทีที่ 84 โปรตุเกส มาเปลี่ยนตัวคนที่สอง ถอด นานี่ ตัวรุกออก แล้วส่ง คัสตูดิโอ มิดฟิลด์ตัวรับลงมาเสริมในแดนกลาง

     2 นาทีต่อมา เช็ก แก้เกมบ้าง ส่ง โทมัส เป็คฮาร์ท กองหน้าสโมสรเนิร์นแบร์ก ลงมาแทน โทมัส ฮุบช์มัน

     นาทีที่ 89 โปรตุเกส เปลี่ยนตัวครบโควต้าคนสุดท้าย เอา โรลันโด้ กองหลังลงมาเน้นเกมรับ แทน ราอูล เมยเรเลส

     นาทีสุดท้าย ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ กองหลังของทีมเช็ก มาโดนใบเหลืองอีกคน หลังไปเตะข้างหลังใส่ เจา เปเรยร่า

     ช่วยทดเวลาบาดเจ็บ ออกไป 4 นาที เช็ก พยายามลุยสู้ รวมถึงมาได้เตะมุม ปีเตอร์ เช็ก ต้องขึ้นมาลุยด้วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ เป่าจบ 90 นาที เป็น โปรตุเกส ที่เอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก ไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรก โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง สเปน กับ ฝรั่งเศส ต่อไป

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่ลงสนาม

สาธารณรัฐเช็ก (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก ; มิชาล คัดเล็ช, โทมัส ซิว็อค, ดาวิด ลิมเบอร์สกี้, ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ ; ยาโรสลาฟ พลาซิล, โทมัส ฮุบช์มัน, วาคลาฟ ปิลาร์,ปีเตอร์ ยิราเซ็ค, วลาดิเมียร์ ดาริด้า, มิลาน บารอส
ผู้จัดการทีม : มิชาล บิเล็ค

โปรตุเกส (4-3-3) : รุย ปาตริซิโอ ; ฟาบิโอ โกเอนเตรา, บรูโน่ อัลเวส, เปเป้, เจา เปเรยร่า ; มิเกล เวโลโซ่, เจา มูตินโญ่, ราอูล เมยเรเลส ; หลุยส์ นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ผู้จัดการทีม : เปาโล เบนโต้

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)