หน้าแรก - ข่าว - ตราไก่พ่ายยังลิ่ว!ไวกิ้งโชว์สปิริตอัดดิ้น2-0
ตราไก่พ่ายยังลิ่ว!ไวกิ้งโชว์สปิริตอัดดิ้น2-0
Posted:20/06/2012



 

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012

 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี

 วันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2555

 สวีเดน 2  -  0 ฝรั่งเศส


สนาม: โอลิมปิก สเตเดี้ยม-ยูเครน
 
  เกมนัดสุดท้ายของกลุ่มดี "ไวกิ้ง" สวีเดน พวกเขาตกรอบแรกแน่นอนแล้วหลังพ่ายแพ้มาสองเกมรวด โดยเกมนี้จะลงเล่นตามโปรแกรมพบกับ อดีตแชมป์2สมัย "ตราไก่" ฝรั่งเศส ซึ่งรั้งจ่าฝูงของกลุ่มหลังจากสองเกมที่ผ่านมาชนะ1และเสมอ1มี 4 แต้มเท่ากับ อังกฤษ โดยเกมนี้ทัพตราไก่หากไม่แพ้ สวีเดน จะผ่านเข้ารอบทันที หรือหากแพ้ต้องลุ้นให้ยูเครนชนะอังกฤษด้วยความห่างอย่างน้อย 1 ประตูเมื่อเทียบกับที่พวกเขาแพ้สวีเดน


  เริ่มเกมได้เพียง 3 นาที "ไวกิ้ง" สวีเดน ได้โอกาสลุ้นก่อนจาก โอล่า ตอยโวเน่น ได้ขึ้นโหม่งเต็มหัวแต่บอลออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

  นาทีที่ 8 "ตราไก่" ฝรั่งเศส เปิดเกมรุกเข้าใส่บ้าง จังหวะที่ คาริม เบนเซม่า พาบอลขึ้นไปในกรอบเขตโทษ แนวรับ สวีเดน สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง ฟร้องค์ ริเบรี่ ได้ซัดระยะ 12 หลา อันเดรียส อิซัคส์สัน ปิดมุมดีปัดทิ้งออกไปได้

  นาทีที่ 10 ไวกิ้ง เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โอล่า ตอยโวเน่น เบียดแย่งบอลกับ ฟิลิปป์ เม็กแซส ก่อนจะหลุดเข้าไปล็อกหลบ อูโก้ โยริส แต่ยิงไม่ดีบอลกลิ้งไปชนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

  ฝรั่งเศส เปิดเกมบุกแลก นาทีที่ 18 ฟร้องค์ ริเบรี่ มิดฟิลด์ตัวเก่งบาเยิร์น มิวนิค แตะบอลหลบกองหลังสวีเดนไปได้สวยก่อนจะเปิดมาให้ คาริม เบนเซม่า ได้ซัดตรงเส้น 18 หลาด้วยซ้ายแต่บอลลอยข้ามคานออกไป

  นาทีต่อมา สวีเดน ได้สวนกลับมาบ้าง คิม คัลล์สตรอม เปิดฟรีคิก โอล่า ตอยโวเน่น โหม่งชงมาให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ที่วิ่งเติมขึ้นมาซัดด้วยขวาระยะ 25 หลา บอลพุ่งข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

  เกมมาถึงนาทีที่ 35 ทั้งสองทีมต่างเปิดเกมแลกกันสนุกคราวนี้เป็นทีของ ฝรั่งเศส บ้างจังหวะที่ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา แข้งจากนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้โอกาสซัดด้วยขวานอกกรอบระยะกว่า 30 หลา บอลเหินข้ามคานนิดเดียว

  นาทีที่ 45 ตราไก่ น่าจะได้ประตูขึ้นนำ คาริม เบนเซม่า พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะแทงบอลต่อให้ ฟร้องค์ ริเบรี่ ได้วิ่งมาซัดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งแฉลบ โอลอฟ เมลเบิร์ก ออกหลังไปแบบได้เสียว หมดครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ สวีเดน เสมอ ฝรั่งเศส 0-0

 กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง สวีเดน เปลี่ยตัวส่ง คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน ลงสนามมาแทน เอเมียร์ บายรามี่

  นาทีที่ 50 ฝรั่งเศสเกือบได้ประตูอีกครั้ง คาริม เบนเซม่า หลุดไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนปั่นด้วยขวา บอลโค้งเฉี่ยวเสาออกไป

 นาทีที่ 54 เซบาสเตียน ลาร์สสัน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กระโดดวอลเลย์ด้วยขวาสุดงาม บอลพุ่งเสียบโคนเสาชนิด อูโก้ โยริส หมดสิทธิ์ป้องกัน สวีเดนออกนำ 1-0

  นาทีที่ 57 สวีเดนเกือบได้ประตูหนีห่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จ่ายบอลให้ คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรก แต่ อูโก้ โยริส ทุบบอลออกหลังไปได้

  นาทีที่ 58 จากลูกเตะมุม คิม คัลล์สตรอม เปิดเข้าไปหน้าประตู โอลอฟ เมลเบิร์ก กระโดดยิงด้วยขวาแต่ก็ไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส ที่พุ่งปัดเอาไว้ได้

 นาทีที่ 59 ทีมตราไก่ เปลี่ยนผู้เล่นโดยส่ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า ลงมาเล่นแทน ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา

  นาทีที่ 65 ฝรั่งเศสได้ลุ้นจากลูกเตะมุม กาแอล กลิชี่ วางบอลไปให้ ซามีร์ นาสรี่ ได้ยิงหน้าจากหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งไซด์เฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

 นาทีที่ 68 ฟิลิปป์ เม็กแซส รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังไปทำฟาวล์ โอล่า ตอยโวเน่น ซึ่งจะทำให้เจ้าตัวพลาดลงสนามในรอบต่อไป

 นาทีที่ 70 อันเดอร์ส สเวนส์สัน ของสวีเดนก็โดนใบเหลืองบ้าง

  นาทีที่ 71 ฝรั่งเศส ยังครองเกมบุกต่อเนื่อง ยันน์ เอ็มวีล่า ได้สับไกระยะ 18 หลา บอลพุ่งเต็มแรงเข้าเสาแรก แต่ อันเดรียส อิซัคส์สัน ทุบทิ้งออกไปได้

  นาทีที่ 74 ฟลอร็องต์ มาลูด้า ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษระยะ 20 หลา บอลพุ่งข้ามคานออกไปนิดเดียว

 นาทีที่ 77 โลร็องต์ บล็องก์ เทรนเนอร์ทีมตราไก่ ตัดสินใจถอด ซามีร์ นาสรี่ ออกและส่ง เฌเรมี่ เมเนซ ลงสนามแทน

 ทางฝั่ง สวีเดน ก็เปลี่ยนตัวเอา อันเดอร์ส สเวนส์สัน กับ โอล่า ตอยโวเน่น ออก และส่ง ปอนตุส เวิร์นบลูม และ ซามูเอล โฮลเมน ลงเล่นแทน

 นาทีที่ 81 ซามูเอล โฮลเมน ที่เพิ่งลงสนามมาก็รับใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ ยันน์ เอ็มวีล่า
 
  นาทีที่ 82 เฌเรมี่ เมเนซ ทำชิ่งกับ ฟร้องค์ ริเบรี่ ก่อนหลุดเข้าไปยิงด้วยขวาติดขาของ อันเดรียส อิซัคส์สัน ออกหลัง

 นาทีที่ 83 ฝรั่งเศส เสริมกองหน้าด้วยการส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงสนามแทน ยันน์ เอ็มวีล่า

 

 นาทีที่ 90  คิม คัลล์สตรอม ผ่านบอลให้ ซามูเอล โฮลเมน ยิงไปชนคานกระดอนออกมา เซบาสเตียน ลาร์สสัน วิ่งเข้ายิงซ้ำดาบสองเสยตาข่ายไม่เหลือ สวีเดน ออกนำเป็น 2-0

  ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ จบเกม สวีเดน เป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ 2-0 ส่งผลให้ ฝรั่งเศส จบรอบแบ่งกลุ่มที่อันดับ 2 หลัง "สิงโตคำราม" อังกฤษ ชนะ ยูเครน 1-0 โดยทีมตราไก่ จะเข้าไปพบกับ สเปน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


  สวีเดน : อันเดรียส อิซัคส์สัน - อันเดรียส แกรนควิสต์, โอลอฟ เมลเบิร์ก, โยนาส โอลส์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน - อันเดอร์ส สเวนส์สัน (ซามูเอล โฮลเมน น.78), คิม คัลล์สตรอม - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กัปตันทีม), เอมีร์ บายรามี่ (คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน น.46) - โอล่า ทอยโวเน่น (ปอนตุส เวิร์นบลูม น.78)
  สำรองที่ไม่ได้ใช้ : โยฮัน วีลันด์ (ผู้รักษาประตู), พาร์ ฮันส์สัน (ผู้รักษาประตู), มิคาเอล ลุสติก, ราสมุส เอล์ม, โยฮัน เอลมาสเดอร์, โทเบียส ไฮเซ่น, มิคาอิล อันตอนส์สัน, เบห์รัง ซาฟารี, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก
  ใบเหลือง : อันเดอร์ส สเวนส์สัน น.70, ซามูเอล โฮลเมน น.81

 

  ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - มาติเยอ เดอบูชี่, อาดิล รามี่, ฟิลิปป์ เม็กแซส, กาแอล กลิชี่ - อาลู ดิยาร์ร่า, ยันน์ เอ็มวีล่า (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.83) - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.59), ซามีร์ นาสรี่ (เฌเรมี่ เมเนซ น.77), ฟร้องค์ ริเบรี่ - คาริม เบนเซม่า
  สำรองที่ไม่ได้ใช้ : สตีฟ ม็องด็องด้า (ผู้รักษาประตู), เซดริก การ์ราสโซ่ (ผู้รักษาประตู), ปาทริซ เอวร่า, โยอัน กาบาย, มาติเยอ วัลบูเอน่า, แบลส มาตุยดี้, อ็องโตนี่ เรเวยแยร์, มาร์กวิน มาร์กแต็ง, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่
  ใบเหลือง : ฟิลิปป์ เม็กแซส น.68

  ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)
  ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : แบร์ติโน่ มิรานด้า (โปรตุเกส), ริคาร์โด้ ซานโต๊ส (โปรตุเกส)
  ผู้ตัดสินที่ 4 : โพล ฟาน โบเคล (ฮอลแลนด์)


แมน ออฟ เดอะ แมตช์

 

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กัปตันทีม)

 
  ศูนย์หน้า กัปตันทีมชาติสวีเดน ด้วยลูกยิงที่สุดสวยของเขา เมื่อเอียงตัวกระโดดวอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาตุงตาข่าย เขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่นำทีมส่งท้ายทัวร์นาเม้นต์ ด้วยชัยชนะเหนือ ฝรั่งเศส 1-0

ข่าวฮอต

ตารางคะแนน
    อันดับ ทีม W/D/L แต้ม

    เมือง&สนามบอล

    ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา

    ปี ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับ 3
    2008สเปนเยอรมันรัสเซีย / ตุรกี
    2004กรีซโปรตุเกสเนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก
    2000ฝรั่งเศสอิตาลีเนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส
    1996เยอรมันสาธารณรัฐเช็กฝรั่งเศส / อังกฤษ
    1992เดนมาร์กเยอรมันเนเธอร์แลนด์ / สวีเดน
    1988เนเธอร์แลนด์สหภาพโซเวียตอิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก
    1984ฝรั่งเศสสเปนเดนมาร์ก / โปรตุเกส
    1980เเยอรมนีตะวันตกเบลเยียมเชโกสโลวะเกีย
    1976เชโกสโลวะเกียเเยอรมนีตะวันตกเนเธอร์แลนด์
    1972เเยอรมนีตะวันตกสหภาพโซเวียตเบลเยียม
    1968อิตาลียูโกสลาเวียอังกฤษ
    1964สเปนสหภาพโซเวียตฮังการี
    1960สหภาพโซเวียตยูโกสลาเวียเชโกสโลวะเกีย