หน้าแรก - ข่าว - บาโลยิงปิด!อัซซูรี่เข้ารอบอัดยักษ์เขียว2-0
บาโลยิงปิด!อัซซูรี่เข้ารอบอัดยักษ์เขียว2-0
Posted:19/06/2012

  มาริโอ บาโลเตลลี่ซัดปิดท้ายช่วย"อัซซูรี่"อิตาลี เอาชนะ"ยักษ์เขียว"ไอร์แลนด์ 2:0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเเบบต้องลุ้น ในศึกยูโร2012


ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก

นัดสุดท้าย กลุ่ม ซี

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2555

อิตาลี 2           -          0 ไอร์แลนด์

 

สนาม : มูนิซิปัล สเตเดี้ยม, พอซนาน, โปแลนด์

 

        
  "อัซซูรี่" อิตาลี ภายใต้การคุมทัพของ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ จำเป็นต้องเอาชนะ ไอร์แลนด์ ให้ได้สถานเดียวในเกมนี้ เพื่อเพิ่มแต้มเป็น 5 คะแนนให้ได้ จากนั้นค่อยลุ้นผลอีกคู่ให้มีผลแพ้ชนะ หรือไม่ก็ให้ออกผลเสมอ 0-0 แต่ถ้าออก 1-1 ก็ต้องวัดประตูได้-เสียกัน ซึ่ง อิตาลี ต้องเอาชนะ ไอร์แลนด์ ให้ได้มากกว่า 2 ประตู แต่ถ้าผลอีกคู่ออก 2-2 ก็เป็นอันจบข่าว

 
        เกมนี้ทัพอัซซูรี่ ไม่มี "ซูเปอร์มาริโอ" มาริโอ บาโลเตลลี่ ใน 11 คนแรก หลังมีอาการบาดเจ็บหัวเข่า แต่ก็ยังมีชื่ออยู่ในม้านั่งสำรอง โดยให้ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ จับคู่ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ล่าตาข่าย และมีอันเดรีย ปิร์โล่ และดานิเอเล่ เด รอสซี่ คอยขับเคลื่อนในแดนกลาง

 
  ทางด้าน "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ของ "อิล แทร็ป" โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือเฒ่าชาวอิตาเลียน พาทีมปราชัยสองนัดรวดไล่ตั้งแต่เกมแรกเสียท่า โครเอเชีย ไปแบบหมดรูป 1-3 ตามมาด้วยโดน สเปน ต้อนอีก 4-0 ในนัดสอง กลายเป็นทีมแรกของทัวร์นาเมนท์ที่ต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน

 
  นัดนี้ก็ยังคงใช้ผู้เล่นชุดตัวจริงเป็นหลัก นำโดย ร็อบบี้ คีน ยืนหน้าคู่กับ เควิน ดอยล์ โดยมีเดเมี่ยน ดั๊ฟฟ์ และไอเดน แม็คเกียดี้ คอยเดินเกมรุกทางริมเส้น

 

     เริ่มครึ่งแรกอิตาลี เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ก็เกือบที่จะโดนก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดเกมมาแล้วส่งบอลกันพลาดดีที่บอลลึกไปถึงมือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ก่อน

  แต่ทัพอัซซูรี่ ก็ลุยกลับทันที นาทีที่ 2 ก็ได้ลุ้นจากจังหวะดานิเอเล่ เด รอสซี่ ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่จับในกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาแรกแบบได้เสียว

  ผ่านไป 10 นาที อิตาลี ได้บุกมากกว่าก็จริง แต่จังหวะสุดท้ายก็โดนกองหลัง ไอร์แลนด์ เคลียร์ทิ้ง ได้หมด

  เกมยังเป็นของนักเตะแดนมะกะโรนี นาทีที่ 18 เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ แบ็กซ้ายเติมขึ้นมายิง ร่วม 30 หลา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

  ผ่านมาถึงนาทีที่ 28 อิตาลีก็มาโดนใบเหลืองแรกของเกม เมื่อ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ เสียบอลให้ ไอเดน แม็คเกียดี้ ก่อนนักเตะปาแลร์โม่ จะไปดึงเพื่อตัดเกม

     จากนั้นอีก 3 นาที ทัพอัซซูรี่ ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ต เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายได้สวย ก่อนจะลากไปถึงเส้นหลัง แล้วตบเข้ากลางให้อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ได้พลิกตัวยิง แต่ ฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์ วิ่งมาบังไว้ได้ก่อนบอลจะเข้ากรอบ

  อิตาลี มาเป็นชุด นาทีที่ 34 อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ได้บอลหลุดไปก่อนจะล็อกหลบ เชย์ กิฟเว่น ไปทางขวาได้แล้ว แต่มุมแคบเกินไป ยิงก็ไปโดนฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์ เคลียร์จากเส้นทิ้งไปได้

  นาทีต่อมา อันโตนิโอ คาสซาโน่ ก็ได้ซัดด้วยขวาเต็มๆ ระยะประมาณ 25 หลา เชย์ กิฟเว่น ต้องออกแรงพุ่งเซฟออกหลังไป เป็นลูกเตะมุม
 
  และจากจังหวะเตะมุมนั้นเอง อิตาลีก็ขึ้นนำจนได้ 1-0 ในนาทีที่ 35 อันเดรีย ปิร์โล่ เปิดมาให้ อันโตนิโอ คาสซาโน่ โฉบมาโหม่งเสาแรก เชย์ กิฟเว่น ปัดไม่อยู่ บอลข้ามเส้นไปแล้ว ก่อนที่ เดเมี่ยน ดั๊ฟฟ์ ที่ยืนคุมเส้นอยู่เสาสองจะเตะทิ้งออกมาจากเส้น

  หลังเสียประตูทีมยักษ์เขียว เริ่มที่จะเล่นแรงขึ้น นาทีที่ 37 คีธ แอนดรูว์ส มาโดนเหลืองแรกของทีมเมื่อไปเตะใส่ อันเดรีย ปิร์โล่

  และอีกนาทีต่อมา จอห์น โอเช ก็รับเหลืองที่สองเมื่อไปฟาวล์ใส่ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ

  จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบ 45 นาทีแรก อิตาลี นำ ไอร์แลนด์ อยู่ 1-0

  เปิดฉากครึ่งหลังมา ทัพอัซซูรี่ ลุยทันที นาทีที่ 47 ก็ได้ลุ้น เมื่อ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ ลุยมาทางซ้าย ก่อนจะเปิดเลียดให้ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ได้ยิง แต่ไปติด ฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์

  และอีก 2 นาทีต่อมา อันโตนิโอ คาสซาโน่ ได้ซัดอีกคนในกรอบเขตโทษ แต่เป็น ฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์ อีกแล้ว ที่วันนี้ยืนตำแหน่งบล็อกได้ดีจริงๆ

  เกมยังเป็นของอิตาลี นาทีที่ 55 อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ได้บอลหลุดไปทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะได้อัดมุมแคบ แต่ไม่ผ่านมือ เชย์ กิฟเว่น

  นาทีที่ 57 อิตาลี ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ มีอาการบาดเจ็บ ต้องส่ง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เซ็นเตอร์จากยูเวนตุส ลงสนามมาแทน

  จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา เป็น ไอร์แลนด์ ที่มาได้โอกาสบ้าง เมื่อ คีธ แอนดรูว์ส ได้จังหวะยิงด้วยขวา ประมาณ 25 หลา บอลพุ่งตกพื้น แต่ไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน รับเข้าซองไม่ยาก

  นาทีที่ 62 อิตาลี เปลี่ยนตัวคนที่สอง ถอด อันโตนิโอ คาสซาโน่ ออก แล้วส่ง อเลสซานโดร เดียมานติ ลงมาแทน

  นาทีที่ 65 ทีมยักษ์เขียว มาเปลี่ยนตัวคนแรกบ้าง ส่ง เชน ลอง ศูนย์หน้าเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ลงมาแทน ไอเดน แม็คเกียดี้ 

  ทัพอัซซูรี่ มาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 20 หลา ในนาที 68 และเป็น อันเดรีย ปิร์โล่ เจ้าเก่ารับอาสาสังหาร แต่คราวนี้ยิงได้ไม่ดี บอลเหินข้ามคานออกไป

  และนาทีที่ 71 อิตาลี มาโดนเหลืองอีกคน เมื่อ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ไปเตะข้างหลังใส่ เควิน ดอยล์

  จากนั้นไม่นาน นาที 73 จานลุยจิ บุฟฟ่อน กัปตันทีม ก็มาโดนใบเหลืองอีกคน เมื่อไม่พอใจคำตัดสินของ คูเนย์ต คาคีร์ ผู้ตัดสินชาวตุรกี

  เกมรุกของอิตาลี เริ่มตื้อๆ นาทีที่ 74 ปรันเดลลี่ เลยต้องส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาแทน อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ในแดนหน้า 

  นาทีที่ 76 ไอร์แลนด์ ก็เปลี่ยนศูนย์หน้าบ้าง ส่งโจนาธาน วอลเตอร์ส ลงมาแทน เควิน ดอยล์

  เกมของทีมยักษ์เขียว เริ่มดีขึ้น นาทีที่ 78 มาได้ฟรีคิก ระยะประมาณ 25 หลา และเป็น เดเมี่ยน ดั๊ฟฟ์ ที่เขี่ยสั้นๆให้ คีธ แอนดรูว์ส ได้ซัดด้วยขวาเต็มๆ บุฟฟ่อน ต้องออกแรงปัดออกไป

  นาทีที่ 83 ฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์ มาโดนเหลืองอีกคน หลังไปโวยใส่กรรมการ จังหวะที่ คีธ แอนดรูว์ส ไปทำฟาวล์ใส่ มาริโอ บาโลเตลลี่

  นาทีที่ 86 ไอร์แลนด์ เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง ไซม่อน ค็อกซ์ ลงมาแทน ร็อบบี้ คีน

  และก่อนหมดเวลานาทีเดียว ทีมยักษ์เขียวก็ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ คีธ แอนดรูว์ส มาโดนใบเหลืองที่สอง หลังไปทำฟาวล์ใส่ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ 

  และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทัพอัซซูรี่ ก็มาได้ประตูตอกฝาโลง 2-0 จากจังหวะเตะมุมของ อันเดรีย ปิร์โล่ และเป็น มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรอง ที่หันหลังให้ประตูก่อนตวัดยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างเหนือชั้น
 
  จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มเติมจบ 90 นาที อิตาลี ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 เก็บ 3 แต้ม มี 5 คะแนน เข้ารอบเป็นอันดับสองของกลุ่มต่อจาก สเปน

 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีม
 
  อิตาลี (4-1-3-2) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน(กัปตันทีม) - อินยาซิโอ อบาเต้, อันเดรีย บาร์ซาญี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ - อันเดรีย ปิร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ติอาโก้ ม็อตต้า,ดานิเอเล่ เด รอสซี่ - อันโตนิโอ คาสซาโน่, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่
ผู้จัดการทีม : เชซาเร่ ปรันเดลลี่ 
 
  ไอร์แลนด์ (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น - จอห์น โอเช, ริชาร์ด ดันน์, ฌอน เซนต์ เล็ดเจอร์, สตีเฟ่น วอร์ด - ไอเดน แม็คเกียดี้, เกล็น วีแลน, คีธ แอนดรูว์ส, เดเมี่ยน ดั๊ฟฟ์(กัปตันทีม) - ร็อบบี้ คีน,เควิน ดอยล์
ผู้จัดการทีม : โจวานนี่ ตราปัตโตนี่

 
ผู้ตัดสิน : คูเนย์ต คาคีร์ (ตุรกี)

ข่าวฮอต

ตารางคะแนน
    อันดับ ทีม W/D/L แต้ม

    เมือง&สนามบอล

    ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา

    ปี ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับ 3
    2008สเปนเยอรมันรัสเซีย / ตุรกี
    2004กรีซโปรตุเกสเนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก
    2000ฝรั่งเศสอิตาลีเนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส
    1996เยอรมันสาธารณรัฐเช็กฝรั่งเศส / อังกฤษ
    1992เดนมาร์กเยอรมันเนเธอร์แลนด์ / สวีเดน
    1988เนเธอร์แลนด์สหภาพโซเวียตอิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก
    1984ฝรั่งเศสสเปนเดนมาร์ก / โปรตุเกส
    1980เเยอรมนีตะวันตกเบลเยียมเชโกสโลวะเกีย
    1976เชโกสโลวะเกียเเยอรมนีตะวันตกเนเธอร์แลนด์
    1972เเยอรมนีตะวันตกสหภาพโซเวียตเบลเยียม
    1968อิตาลียูโกสลาเวียอังกฤษ
    1964สเปนสหภาพโซเวียตฮังการี
    1960สหภาพโซเวียตยูโกสลาเวียเชโกสโลวะเกีย