หน้าแรก - ข่าว - โกเมซซัดชัย!อินทรีเหล็กอัดฝอยทอง1-0
โกเมซซัดชัย!อินทรีเหล็กอัดฝอยทอง1-0
Posted:10/06/2012



ฟุตบอล ยูโร 2012 นัดแรก กลุ่ม บี

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2555

เยอรมนี  1      -      0  โปรตุเกส

 


สนาม : เมตาลิสต์ สเตเดี้ยม, เมืองคาร์คิฟ ประเทศ : ยูเครน

         ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 เป็นเกมการแข่งขันของ กลุ่ม บี อินทรีเหล็ก เยอรมัน ลงสนามเป็นเกมแรกพบกับ โปรตุเกส โดย โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ของฝั่งเยอรมันปรับแนวรับส่ง แมตส์ ฮัมเมิ่ลส์ ยืนจับคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ขณะที่แนวรุกยังเป็น โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล และลูคัส โพดอลสกี้ ส่วนหน้าเป้าวาง มาริโอ โกเมซ ล่าตาข่าย ขณะที่ โปรตุเกส ภายใต้การคุมทัพของ เปาโล เบนโต้ ส่งแนวรุกลงมาเต็มสูบทั้ง หลุยส์ นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า และคริสเตียโน่ โรนัลโด้

      เริ่มเกมขึ้นมาเป็นทางฝั่ง โปรตุเกส ได้เขี่ยบอลก่อน แต่เป็นทางฝั่ง อินทรีเหล็ก ที่ได้เสียวก่อนนาทีที่ 2 เยโรม บัวเต็ง เติมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดเข้ามาให้ มาริโอ โกเมซ ขึ้นโขกเต็มหัวแต่ รุย ปาตริซิโอ นาทวารทีมฝอยทอง ยังตระคุบเอาไว้ได้

     นาทีที่ 9 ยังคงเป็น เยอรมนี ที่ครองเกมบุกมากกว่าและเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะที่ ลูคัส โพดอลสกี้ ได้ซัดเต็มเท้า ระยะ 20 หลา แต่ยังไม่ผ่านมือนายทวารทีมฝอยทอง

     นาทีที่ 13 เอลแดร์ ปอสติก้า เปิดปุ่มสไลด์สองขาใส่ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารเยอรมนี กรรมการควักใบเหลืองให้ทันที เป็นใบเหลืองแรกในเกมนี้

     นาทีที่ 24 เยอรมนี ได้ลุ้นฟรีคิก จากจังหวะที่ ราอูล เมยเรเลส เข้าสกัดนักเตะอินทรีเหล็กด้านหลัง ลูคัส โพดอลสกี้ รับหน้าที่แต่ดันยิงไปติดกำแพง

     โปรตุเกส เปิดเกมสวนกลับมาบ้าง นาทีที่ 26 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้จังหวะสับไก แต่ยิงไปบล็อคของ เยโรม บัวเต็ง

     ผ่านมาครึ่งชั่วโมง ยังคงเป็น อินทรีเหล็ก ที่ครองเกมได้มากกว่าแต่ยังไม่สามารถเจาะประตู โปรตุเกส ได้เลยยังทำให้เสมอกันอยู่ 0-0

     นาทีที่ 40 ลูคัส โพดอลสกี้ กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลผ่านมาหน้าประตูเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ วิ่งมาแปด้วยขวาแต่โดนเหลี่ยมไม่ดี บอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป

     นาทีที่ 43 เยอรมัน มาโดนใบเหลืองบ้าง จังหวะที่ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ เข้าไปย่ำข้อเท้า หลุยส์ นานี่ โดนไปฝั่งละเหลือง

     ช่วงท้ายครึ่งแรก โปรตุเกส พลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เจา มูตินโญ่ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาแต่ กองหลัง อินทรีเหล็ก โหม่งบอลไม่ดีเลยมาถึง เปเป้ ได้ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งไปชนคานกระดอนพื้นออกมา โดยที่บอลยังอยู่บนเส้นประตู หมดครึ่งแรก เยอรมัน ยังเสมอ โปรตุเกส 0-0

     กลับลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง เยอรมัน ได้ลุ้นก่อน นาทีที่ 46 จังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ กึ่งยิงกึ่งผ่าน บอลเลยมาถึง ลูคัส โพดอลสกี้ วิ่งเข้ามาอัดด้วยซ้ายติดแนวรับโปรตุเกส ก่อนจะมาเข้าทาง มุลเลอร์ ซ้ำดาบสองอีกครั้งแต่ยังไม่ผ่าน  เปเป้ ที่เข้ามาบล็อคบอลออกหลังไป

     นาทีที่ 57 ลูคัส โพดอลสกี้ ครอสเข้าในกรอบ ระยะ 18 หลาให้ มาริโอ โกเมซ ได้โหม่งแต่กดไม่ลงบอลเลยข้ามคานออกไป

      เกมผ่านไปครบ1ชั่วโมงเต็มทั้งสองทีมยังพลัดกันรุกพลัดกันรับ แต่เป็นฝ่าย อินทรีเหล็ก ที่มีโอกาสครองบอลได้มากกว่า โดยสถิติครองบอล 60% ส่วนโปรตุเกสแค่ 40% เท่านั้น

     นาทีที่ 61 ฟาบิโอ โกเอนเตรา แนวรับโปรตุเกสรับใบเหลืองอีกรายหลังพุ่งเข้าไปเสียบ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ด้าหลัง

     โปรตุเกส แม้จะบุกน้อยกว่าแต่เกือบได้ประตูขึ้นนำ นาทีที่ 64 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบ แต่ดีที่ เยโรม บัวเต็ง ยังวิ่งเข้ามาขวางไว้ได้ทัน จังหวะนี้ทำให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ ทำให้เกมหยุดไปชั่วครู่

     นาทีที่ 69 เป็น เยโรม บัวเต็ง ต้องมาสังเวยเหลืองอีกใบเมื่อไปทำฟาว์ล คริสเตียโน่ โรนัลโด้

     นาทีที่ 70 โปรตุเกส แก้เกมเป็นหนแรกถอดเอา เอลแดร์ ปอสติก้า ที่ไม่มีบทบาทเท่าไหร่นักออกแล้วส่ง เนลสัน โอลิเวยร่า ลงมาเล่นแทน

     นาทีที่ 72 อินทรีเหล็ก มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ ซามี่ เคดิร่า เปิดบอลจากฝั่งขวา เข้ามาในเขตโทษ มาริโอ โกเมซ ขึ้นโหม่งเต็มหัวบอลสวนตัว รุย ปาตริซิโอ กระดอนพื้นเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม เยอรมัน นำ โปรตุเกส 1-0

     นาทีที่ 80 โยอัคคิม เลิฟ ปรับเกมโดยถอด มาริโอ โกเมซ ผู้ทำประตูขึ้นนำออกแล้วส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกวัย 34 ปี ลงเล่นแทนส่วน โปรตุเกส แก้เกมทันควันเช่นกันเปลี่ยนเอา ราอูล เมยเรเลส ออกแล้วส่ง ซิลเวสเตร วาเลร่า ลงมาเติมเกมรุกแทน

     นาทีที่ 86 เยอรมัน เปลี่ยน เมซุต โอซิล ออกมาพักแล้วให้ โทนี่ โครส ลงเน้นเกมตรงกลาง

        นาทีที่ 88 โปรตุเกส น่าจะได้ประตูตีเสมอเมื่อ ซิลเวสเตร วาเลร่า หัวหอกสำรองได้ยิงโล่งๆ ในกรอบระยะกว่าแค่10หลาทว่ายิงไม่ดีพอบอลไปติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์

นาทีที่ 90 โปรตุเกส โหมบุกหนักหวังเอาประตูตีเสมอ ฟาบิโอ โกเอนเตรา พาบอลหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนที่จะหักบอลมาให้ หลุยส์ นานี่ ได้อัดเต็มเท้า แต่ยังไปติดบล็อคของ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ออกหลังไป

     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โยอัคคิม เลิฟ เปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนสุดท้ายโดยถอดเอา โธมัส มุลเลอร์ ออกแล้วส่ง ลาร์ส เบนเดอร์ ลงมาเล่นเกมรับแทน

     ช่วงเวลาที่เหลือแม้ โปรตุเกส จะโหมบุกอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถบุกเข้าไปเจาะแนวรับอินทรีเหล็กได้ จบเกม เยอรมนี เฉือนชนะ โปรตุเกส ไปแบบสนุก 1-0 ส่งผลให้ เยอรมัน มีสามแต้มเท่ากับ เดนมาร์ก

        โดยโปรแกรมนัดที่สองของทั้งสองทีม เดนมาร์ก จะพบ โปรตุเกส ส่วน ฮอลแลนด์ พบ เยอรมัน ในวันพุธที่ 13 มิ.ย. นี้

11ผู้เล่นทั้งสองทีม
เยอรมัน (4-2-3-1) :
มานูเอล นอยเออร์ - เยโรม บัวเต็ง, แมตส์ ฮัมเมิ่ลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตัน) - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ - มาริโอ โกเมซ
เทรนเนอร์ :โยอัคคิม เลิฟ

โปรตุเกส  (4-3-3)  : รุย ปาตริซิโอ - เจา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่, ราอูล เมยเรเลส - หลุยส์ นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตัน)
เทรนเนอร์ :เปาโล เบนโต้


ผู้ตัดสิน  :
  สเตฟาน ลันนัว (ฝรั่งเศส)

ข่าวฮอต

ตารางคะแนน
    อันดับ ทีม W/D/L แต้ม

    เมือง&สนามบอล

    ชิงอันดับฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา

    ปี ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับ 3
    2008สเปนเยอรมันรัสเซีย / ตุรกี
    2004กรีซโปรตุเกสเนเธอร์แลนด์ / สาธารณรัฐเช็ก
    2000ฝรั่งเศสอิตาลีเนเธอร์แลนด์ / โปรตุเกส
    1996เยอรมันสาธารณรัฐเช็กฝรั่งเศส / อังกฤษ
    1992เดนมาร์กเยอรมันเนเธอร์แลนด์ / สวีเดน
    1988เนเธอร์แลนด์สหภาพโซเวียตอิตาลี / เเยอรมนีตะวันตก
    1984ฝรั่งเศสสเปนเดนมาร์ก / โปรตุเกส
    1980เเยอรมนีตะวันตกเบลเยียมเชโกสโลวะเกีย
    1976เชโกสโลวะเกียเเยอรมนีตะวันตกเนเธอร์แลนด์
    1972เเยอรมนีตะวันตกสหภาพโซเวียตเบลเยียม
    1968อิตาลียูโกสลาเวียอังกฤษ
    1964สเปนสหภาพโซเวียตฮังการี
    1960สหภาพโซเวียตยูโกสลาเวียเชโกสโลวะเกีย